สธ.แถลง ‘โอมิครอน’ ครองตลาดแทน ‘เดลต้า’ พบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในไทยแล้ว18.5%

สธ.เผย เชื้อ ‘โอมิครอน’ เป็นเจ้าตลาดแทนเชื้อ ‘เดลต้า’ เกือบหมด พบโอมิครอน สายพันธุ์ ย่อย BA.2 ในไทยแล้ว18.5%คาดไม่นานครองประเทศ 100%

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงถึงการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สุ่มตรวจสายพันธุ์กว่า 2,000 ตัวอย่าง พบว่าเป็นเชื้อโอมิครอนเกือบทั้งหมด หรือ ร้อยละ 97.2 ที่เหลือเป็นเชื้อเดลต้า ร้อยละ 2.8 โดยพบเชื้อโอมิครอนทุกจังหวัดแล้ว โดย 10 จังหวัดที่พบมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ หนองคาย สุราษฎร์ธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ผู้เดินทางเข้าประเทศมา มีเชื้อโควิด-19 เป็นสายพันธ์ุโอมิครอน 100 % ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศก็พบมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าอีกไม่นานก็จะเข้าร้อยละ 100 เช่นกัน และด้วย BA.1 ที่ระบาดกว้างขวาง ก็ขยับเป็นส่ยพันธุ์ย่อย BA.1.1 ซึ่งตรวจพบได้ในประเทศเช่นกัน

ทั้งนี้ ตามธรรมชาติไวรัสที่ติดเชื้อซ้ำมากๆ ก็จะออกลูกหลาน มีโอกาสกลายพันธุ์ จากเดิมที่เป็นสายพันธุ์ B.1.1.529 ที่เราเรียกว่า BA.1 เป็นสายพันธุ์หลัก มีการส่งข้อมูลเข้าไปในจีเสส (GISAID) ประมาณ 6 แสนกว่าตัวอย่าง ส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.2 มี 5 หมื่นกว่าตัวอย่าง จาก 57 ประเทศ แต่ยังไม่ถึง ร้อยละ 10 โดย BA.2 พบมากที่เดนมาร์ก ซึ่งมากกว่า BA.1 ส่วน BA.3 เจอน้อยมากเพียง 297 ตัวอย่าง

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ในประเทศไทย แทบไม่มีสายพันธุ์อัลฟ่า สายพันธุ์จี และสายพันธุ์อู่ฮั่น แล้ว จะเหลือเพียงสายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ กับสายพันธุ์ ‘เดลต้า’เท่านั้น

นพ.ศุภกิต กล่าวว่า สายพันธุ์ BA.2 ซึ่งตรวจพบในอินเดีย และแอฟริกาใต้ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 ประเทศไทยเราพบรายแรกในต้นเดือนมกราคม 2565 โดยความแตกต่างสำคัญของ BA.1 และ BA.2 คือ มีลักษณะกลายพันธุ์เหมือนกัน 32 ตำแหน่ง และต่างกัน 28 ตำแหน่ง ซึ่งอันที่เป็นจุดสำคัญของ BA.2 จากที่ควรจะมีตำแหน่งที่หายไปจากสายพันธุ์ ‘เดลต้า’ ในตำแหน่ง HV69-70 แต่ปรากฎว่าไม่ได้หายไป แต่ยังมีวิธีตรวจจับได้

ประเทศที่พบว่าสายพันธุ์ BA.2 จะมาแทน BA.1 คือ อินเดีย เดนมาร์ก สวีเดน โดยถ้า BA.2 แพร่เร็วกว่า BA.1 ก็จะมีการแทนที่กันในอนาคต ประเทศไทยก็ต้องจับตาดู

“คำถามว่า แพร่เชื้อเร็วขึ้น หลบวัคซีน หรือมีความรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่ ก็พบว่ามีสัญญาณว่าแพร่เร็วขึ้น ความรุนแรงกับการหลบวัคซีนที่ต้องดูจากตำแหน่งกลายพันธุ์ ซึ่งข้อมูลขณะนี้ ยังมีข้อแตกต่างไม่มากเมื่อเทียบกับ BA.1 เพราะต้องดูในสนามจริงว่า คนติดเชื้อจะรุนแรงมากกว่าแค่ไหน” นพ.สุภกิจ กล่าว

นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ข้อมูลการสุ่มตรวจสายพันธุ์ เฉพาะวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 1,975 ตัวอย่าง ในผู้เดินทางเข้าประเทศ 638 ตัวอย่าง พบเป็น B.1.1 จำนวน 596 ตัวอย่าง BA.1 จำนวน 34 ตัวอย่าง และ BA.2 จำนวน 8 ตัวอย่าง สำหรับการตรวจในประเทศ 1,337 ตัวอย่าง พบเป็น B.1.1 จำนวน 812 ตัวอย่าง BA.1 จำนวน 428 ตัวอย่าง และ BA.2 จำนวน 97 ตัวอย่าง ดังนั้น เราเจอโอมิครอน BA.2 ภาพรวมในประเทศคิดเป็น ร้อยละ 18.5 ส่วน BA.1 ร้อยละ 81.5 แต่การตรวจมีความจำกัดในบางศูนย์ตรวจ ซึ่งกำลังทำให้มีความครอบคลุม เพื่อให้เห็นภาพจริงของประเทศต่อไป

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวจาก 500 กว่าตัวอย่าง ที่เป็นคนละช่วงเวลา และกว่าผลจะออกมา ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จะช้ากว่าการตรวจหาสายพันธุ์เบื้องต้น 2,000 กว่าตัวอย่าง ถ้าเป็นตามนี้คือ การถอดทั้งตัวเจอ BA.2 จะอยู่ที่ร้อยละ 2 กว่าๆ เท่านั้น แต่เมื่อข้อมูลล่าสุดที่ตรวจเบื้องต้นพบถึง ร้อยละ 18.5 แสดงให้เห็นว่า แนวโน้ม BA.2 เริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการรายงานในสัปดาห์ต่อๆ ไป

“สรุปได้ว่าเชื้อ ‘โอมิครอน’ เป็นเจ้าตลาดแทนเชื้อ ‘เดลต้า’ เกือบหมด โดยระดับโลกยังเพิ่มขึ้นเร็ว การที่แพร่เร็ว ติดเชื้อซ้ำบ่อยๆ ก็มีโอกาสกลายพันธุ์ ทั้งเป็นสายพันธุ์ย่อยในบางตำแหน่งที่เปลี่ยนไป หรือกลายเป็นพันธุ์ใหม่เลยที่อาจรุนแรงขึ้นได้ ต้องลุ้นต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่พบ เหมือนที่หลายคนบอกว่า อย่าเพิ่งสรุปว่าจะจบ เพราะมันอาจจะยังไม่จบก็ได้”

ทั้งนี้ นพ.ศุภกิจ กล่าวถึงการติดตามความรุนแรงของเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 ว่า จะมีการส่งข้อมูลไปยังกรมการแพทย์ เพื่อดูอาการทางคลินิกของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว เพื่อดูความรุนแรง การใส่ท่อช่วยหายใจ และการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ข้อมูลวิชาการหลายฉบับชี้ว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นยังลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ทั้งสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2

ส่วนกรณีกรณีการพบสายพันธุ์ผสมโอมิครอนกับเดลต้าในผู้ติดเชื้อ 1 ราย หรือเชื้อ ‘เดลต้าครอน’ ในอังกฤษ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ต้องรอการยืนยันเข้าในระบบจีเสสก่อน ส่วนที่พบในประเทศไซปรัสก่อนหน้านี้ ถือเป็นการปนเปื้อนเชื้อ ซึ่งจีเสส ได้ถอนข้อมูลออกจากระบบแล้ว

ข้อมูล : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ประยุทธ์ อย่างเคือง! ถูกถามเกลือเป็นหนอน เอาข้อมูลให้ฝ่ายค้าน ก่อนอภิปราย

ถกสนั่น! กระบะเบรกให้คนข้ามถนน โดนรถหรูพุ่งชนท้าย แต่ต้องเอ๊ะก่อนด่า

ชาวบ้านแห่ช่วย จระเข้ถูกยาง จยย.รัดคอ ตามตัวกว่า 6 ปี ตั้งแต่ตัวยังเล็กจนกลายเป็นจระเข้ยักษ์