หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาประกาศให้ยกเลิกการใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) ที่ผ่านกระบวนการการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ทำให้คนไทยหลายคนสงสัยว่าแล้วอะไรบ้างที่มีไขมันทรานส์ วันนี้เราจึงจะมาขยายความว่าเจ้าไขมันตัวร้ายนี้มันอยู่ที่ไหนบ้าง และเป็นอันตรายอย่างไร?
ไขมันทรานส์ถูกจัดให้เป็นไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพจนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) โดยประเทศสหรัฐฯได้สั่งแบนไขมันทรานส์และบังคับให้ผู้ประกอบการด้านอาหารยุติการใช้ไขมันทรานส์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหาร ขณะที่ประเทศไทยได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข สั่งห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายไขมันทรานส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามประกาศระบุว่าเป็นการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่ง พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
1 ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (13 กรกฎาคม 2561)
ส่วนผสมหลักที่โดนตามราชกิจจานุเบกษานี้มีดังนี้
- ขนมข้นหวาน
- นมข้นจืด
- ครีมเทียมข้นหวาน
- เนยขาว
- มาการีน
โดยส่วนผสมข้างต้นนี้มีอยู่ในอาหารพวกนี้
- โดนัท
- เวเฟอร์
- เค้ก
- ขนมปัง
- เครื่องดื่มเช่น กาแฟ ชาเย็น ชานมไข่มุก
- อาหารฟาสต์ฟูดส์ เช่น พิซซ่า ไก่ทอด แฮมเบอรเกอร์ เฟรนซฟราย
- ป๊อบคอร์น
- และยังมีอีกมากมาย
เพื่อความชัดเจน เรามีตารางบอกปริมาณไขมันทรานส์ในอาหารแต่ละชนิดจากปริมาณอาหาร 100 กรัม มาฝากกันตามนี้เลย
ถ้าร่างกายได้รับไขมันทรานส์เยอะจะเป็นอย่างไร?
สำหรับใครที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารประเภททอดๆ ทั้งหลาย ที่มีกรดไขมันทรานส์มากเกินไปแล้วล่ะก็ จะส่งผลกระทบระบบการทำงานของระบบเอนไซม์ในร่างกายของเรา ทำให้ไขมันชนิดดีในร่างกายของเราลดลงหรือถูกทำลายไป และเพิ่มจำนวนไขมันชนิดเลวให้แก่ร่างกายแทน แถมเจ้าไขมันทรานส์นี้ยังไม่ย่อยสลายได้ง่ายๆ อีกด้วย เนื่องจากเป็นไขมันแปรรูป ซึ่งทำให้ตับของเราต้องทำงานหนักขึ้น และนั่นจึงนำมาซึ่งโรคหรืออันตรายจากไขมันทรานส์ อาทิเช่น
- มีน้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น
- มีภาวะการทำงานของตับที่ผิดปกติ
- มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ฯลฯ
- ทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- เสี่ยงต่อการเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม
- ทำให้นิ่วในถุงน้ำดีอักเสบ
- ทำให้ผู้หญิงอยู่ในภาวะมีบุตรได้ยากขึ้น
เมื่อรู้ถึงอันตรายจากอาหารประเภทไขมันทรานส์แล้ว ก็อย่าลืมหันมาดูแลตัวเองโดยการเลิกรับประทานอาหารประเภทนี้ แล้วเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และคุณค่าสารอาหาร โดยเฉพาะในผักและผลไม้ซึ่งอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพียงเท่านี้สุขภาพดีๆ ก็จะอยู่คู่กับเราไปอีกนานแสนนานเลย
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : กลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข