Bright today พาทุกคนเช็คลิสต์ตัวเอง! 5 สัญญาณเตือน คุณกำลังเสี่ยงต่อการเป็น “โรคสมาธิสั้น” ในผู้ใหญ่ โรคนี้ใกล้ตัวอย่างที่คุณคิด เช็กด่วน!!
เคยสังเกตุตัวเองบ้างไหมว่า เวลาที่เราทำงาน เรียน หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ เราสามารถอยู่กับมันได้นานเท่าไร มีความรู้สึกอย่างไรกับการจดจ่อกับอะไรสักอย่างตรงหน้า ถึงแม้ว่าสิ่งนั้น หรือ กิจกรรมนั้นๆ เป็นสิ่งที่เราชอบก็ตาม เคยรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่ทำอยู่ หรือ ไม่สามารถอยู่กับมันได้นานเท่าที่ควร บางก็ควรจะคิดว่าตัวเองนั้นขี้เบื่อเฉย หรือบางก็บอกกับตัวเอง และคนรอบข้างว่า เรามันเป็นคนไฮเปอร์ ทั้งๆที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมันเลย
หากว่าใครมีอาการ หรือเป็นแบบที่ได้บอกไปเมื่อข้างต้นที่ผ่านมา คุณเข้าข่ายเป็นโรคสมาธิสั้น หากนึกถึงโรคสมาธิสั้น หลายคนก็คงคิดว่าโรคนี้คงเกิดขึ้นแต่กับเด็กเล็กๆเท่านั้น แต่จริงๆแล้วสามารถเกิดขั้นในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน อาการจะคล้ายกัน แต่แตกต่างกันที่หารแสดงออกก็เท่านั้น ข้อสังเกตุสำคัญที่บ่งบอกว่า คุณกำลังเป็นโรคสมาธิสั้นใยผู้ใหญ่นั้นก็คือ ไม่สามารถจัดการกับเวลาได้เมื่อต้องทำงานที่มีกำหนดเวลา บางครั้งทำไม่ทัน หรือทันแบบจวนตัว
- เช็คลิสต์ตัวเอง! 5 ข้อ สัญญาณเตือน ว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อการเป็น “โรคสมาธิสั้น ” ในผู้ใหญ่
1. มีปัญหาในการทำที่ต้องใช้สมาธิ เช่น เหม่อลอยเวลาต้องคุยธุระ วอกแวกง่าย ฟังอะไรจับใจความไม่ค่อยได้ ทำงานผิดพลาดเพราะประมาท
2. ขี้ลืมและมีปัญหาการจัดงานให้เป็นระบบ เช่น โต๊ะทำงาน ห้องพักรกและไม่เป็นระเบียบอย่างมาก
หาอะไรจะหาไม่พบเสมอ มักผัดวันประกันพรุ่ง มาสายประจำ ทำของหายบ่อยๆหรือจำไม่ได้ว่าวางไว้ที่ไหนเช่น กุญแจ, กระเป๋าเงิน) ไม่สามารถทำงานเสร็จทันเวลาที่กำหนด
3. หุนหันพลันแล่น เช่น พูดแทรกเวลาคนอื่นพูด ไม่ค่อยคิดก่อนทำและพูดทำให้เกิดปัญหากับตนเองหรือคนรอบข้างบ่อยครั้ง
4. เบื่อง่าย เช่น มีความรู้สึกอึดอัดเวลานั่งเฉยๆนานๆ เช่น เวลาประชุมนานจะรู้สึกกระวนกระวายใจชอบอะไรแปลกใหม่และตื่นเต้น พูดเก่ง พูดมาก
5. มีปัญหาอารมณ์ เช่น รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ เครียด หงุดหงิดง่าย บางคนซึมเศร้าและวิตกกังวล นอนไม่หลับ เสี่ยงต่อปัญหาการติดสุราและยาเสพติดอื่นๆ
แน่นอนว่าาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแน่นอน อีกทั้งยังกระทบในด้านจิตใจ มักจะมีความเครียด และเกิดโรคซึมเศร้า วิตกกังวลตามมา จึงมีความเสี่ยงในการติดบุหรี่ สุรา หรือยาเสพติดที่อันตรายอื่นๆ ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพ และแน่นอนกระทบการการทำงาน เชื่องโยงไปถึงผู้คนขอบข้าง เพราะมักเป็นคนที่ใจร้อน หุนหันพลันแล่น ไม่คิดก่อนที่จะกระทำ
การรักษานั้นมีหลายวิธี สามารถเข้าขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ได้ อย่าคิดว่าเราเป็นคนบ้า บ้างทีอาจจะเกิดความผิดปกติจากร่างกายของเราก็เป็นไร สามารถรักษาด้วยการใช้ยา ในผู้ป่วยหนัก แต่หากใครสำรวจตัวเอง และคิดว่ามีความเสียงที่จะเป็นนั้น สามารถรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมของตัวเอง เช่น ฝึกอารมณ์ของตนเอง จัดตารางเวลาว่าจะทำอะไรเมื่อไรให้ชัดเจน มีแผนล่วงหน้าเสมอ ทำประโยชน์ให้กับตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อสร้างความภาคภูมิใจ รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และพักผ่อนให้เพียงพอ
ข้อมูล – www.drwichian.com