สายโกโก้ ควรระวัง! กินเข้มข้นมากเกินไป เสี่ยงอาการ ใจสั่น จนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล นอกจากนี้ต้องเสี่ยงอาการอะไรอีกบ้างมาดูเลย
เครื่องดื่มยอดฮิตตลอดกาลของคนทุกช่วงทุกวัยนั้นก็คือ โกโก้ นั้นเอง โกโก้เป็นเมล็ดของพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาผลิตช็อกโกแลต ภายในโกโก้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งอาจนำมาใช้รักษาหรือป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ไขมันจากเมล็ดโกโก้อาจนำมาใช้ป้องกันผิวหนังจากริ้วรอยและรอยแตกลายได้ ทั้งนี้ แม้ว่าโกโก้จะเต็มไปด้วยคุณประโยชน์สารพัด แต่ผู้บริโภคก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

คำเตือนของการรับประทานโกโก้
เนื่องจากคาเฟอีนในโกโก้จะไปกระตุ้นสมองส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ อาการที่พบ ขึ้นกับปริมาณคาเฟอีนที่บริโภคและที่คงค้างในร่างกาย เช่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ มือสั่น กระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และปัสสาวะบ่อย
- ความดันโลหิตสูง คาเฟอีนในโกโก้อาจเพิ่มความดันโลหิตในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงได้ แต่สำหรับผู้ที่รับประทานคาเฟอีนในปริมาณมากอยู่แล้วอาจมีความดันโลหิตสูงชึ้นไม่มากนัก ทั้งนี้ ปริมาณโกโก้ที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว คือ ควรรับประทานช็อกโกแลตหรือโกโก้ที่ให้สารโพลีฟีนอลแก่ร่างกายในปริมาณ 25-1,080 มิลลิกรัมต่อวัน
- โรคเบาหวาน น้ำตาลในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโกโก้อาจไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงรบกวนการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ภาวะเลือดออกผิดปกติ ผลิตภัณฑ์จากโกโก้อาจชะลอการแข็งตัวของเลือดซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกผิดปกติ
- ต้อหิน คาเฟอีนในโกโก้อาจเพิ่มแรงดันภายในลูกตา ผู้ป่วยจึงควรระมัดระวังในการบริโภคโกโก้อยู่เสมอ
- กรดไหลย้อน โกโก้อาจไปขัดขวางการทำงานของหลอดอาหารจนส่งผลให้อาการของกรดไหลย้อนแย่ลงได้
- กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน และท้องเสีย หากมีการบริโภคสารคาเฟอีนจากผลิตภัณฑ์โกโก้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนและผู้ป่วยท้องเสียมีอาการแย่ลง
- ปวดหัวไมเกรน โกโก้อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ที่ไวต่ออาการปวดได้
- โรคกระดูกพรุน สารคาเฟอีนจากโกโก้อาจทำให้ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น จึงควรระมัดระวังในการรับประทานโกโก้อยู่เสมอ
- ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคโกโก้อาจรบกวนการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดในระหว่างและหลังการผ่าตัดได้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการผ่าตัดใด ๆ ผู้ป่วยควรหยุดรับประทานโกโก้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ภาวะวิตกกังวล คาเฟอีนจากโกโก้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยประสบภาวะวิตกกังวลหรืออาการทรุดหนักลงได้
- อาการใจสั่น ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณโกโก้ที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน คือ 19-54 กรัม ดาร์คช็อกโกแลตในปริมาณ 46-100 กรัมต่อวัน หรือผลิตภัณฑ์จากโกโก้ที่มีสารโพลีฟีนอลในปริมาณ 16.6-1080 มิลลิกรัมต่อวัน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY