เตือน! ชาวออฟฟิศซินโดรม 6 ท่านั่งทำงานที่ทำให้เกิดอาการปวดไม่รู้ตัว

ชาวพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ใครก็ตามที่อยู่กับหน้าคอม หน้าโน๊ตบุ๊ค และต้องนั่งทำงานนานๆ วันละ 8-9 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อยหรือบางคนถึงขนาดทำงานเพลินจนลืมดูเวลา ลืมทานอาหาร หรือลุกออกไปเดิน ซึ่งแน่นอนว่าการที่เรานั่งทำงานนานๆ ใช้งานกล้ามเนื้อเดิมตลอดเวลาเป็นเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าเรายิ่งนั่งผิดท่าทางยิ่งทำให้ปวดไปใหญ่ วันนี้ Bright TV จะมาบอก 6 ท่านั่งทำงานที่ทำให้เกิดอาการปวดไม่รู้ตัว

• เคยสังเกตไหม! ทำไมคนเราชอบเป็น “ภูมิแพ้ในตอนกลางคืน”

• ทริคใหม่! สำหรับคนลดน้ำหนัก เคี้ยวอาหารช้าๆ ช่วยลดน้ำหนักได้

• เพศศึกษา101 รู้จักฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย มีหน้าที่อะไรบ้าง?

6 ท่านั่งทำงานที่ทำให้เกิดอาการปวดแบบเรื้อรัง

1. นั่งเบาะไม่เต็มก้น 
   การนั่งแค่ครึ่งเบาะ หลังไม่พิงเบาะ ทำให้หลังค่อม รวมถึงกล้ามเนื้อหลังทำงานหนักมากขึ้น เพราะก้นรับรองน้ำหนักที่ได้ไม่เต็มที่
2. นั่งหลังค่อม 
   การนั่งหลังค่อมยังทำให้กระดูกสันหลังงอ ยิ่งถ้าอยู่ท่าเดิมไปนานๆ โดนไม่ขยับเลย จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดอาการคั่งของกรดแลคติก (Lactic Acid)จนมีอาการเมื่อยล้าตลอดเวลา และกระดูกคดงอผิดรูปถาวรได้
3. นั่งไขว่ห้าง 
   หากเราลงน้ำหนักไปที่ขาและเท้าข้างใดข้างหนึ่ง เลือดบริเวณขาจะไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้เมื่อย และกล้ามเนื้อผิดรูป และอาจทำให้กระดูกสันหลังคดงอ เส้นประสาททำงานผิดปกติ จนไปถึงหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทได้
4. นั่งขัดสมาธิ 
   ทำให้เป็นเหน็บชา ยิ่งในคนน้ำหนักตัวเยอะ หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมได้
5. นั่งทับขาข้างใดข้างหนึ่ง 
   เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เสี่ยงอาการกระดูกสะโพก และกระดูกสันหลังคดงอได้เพราะความไม่สมดุลขอขาทั้งสองข้างนั่นเอง
6. นั่งพิมพ์โน๊ตบุ๊คที่วางบนตัก 
   การที่แป้นพิมพ์ และหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำเกินไป ทำให้เราก้มลงมองจอ จนอาจมีอาการปวดคอ ปวดหลังโดยไม่รู้ตัว

อาการปวดหลังเหล่านี้ มักจะดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่หากมีอาการปวดหลังนานเกิน 4 สัปดาห์ และมีอาการชา ขาอ่อนแรง ปวดหลังร้าวลงขา ปวดหลังลงไปที่เท้า ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด อาการปวดหลัง ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการเป็นไม่มาก อาจหายได้ด้วยการรับประทานยา หยุดนอนพัก และการทำกายภาพบำบัด แต่ในกรณีที่มีอาการปวดหลังนานเกิน 4 สัปดาห์ ไม่ควรชะล่าใจ เพราะคุณอาจกำลังเสี่ยงโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้

แหล่งที่มา sikarin

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY