อัยการและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมรับตัวพระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย หลังศาลสหรัฐฯมีคำสั่งส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามคำร้องขอของสำนักงานอัยการสูงสุดของไทย ขณะที่เณรคำก็ยินยอมกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทย โดยมีแหล่งข่าวเชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า ทรัพย์สินเงินทองที่ติดตัวไปเริ่มร่อยหรอ จึงยอมกลับมาขอสู้คดี
เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ แถลงกับสื่อมวลชน กรณีคดีของเณรคำ หรือนายวิรพล สุขผล ที่ตกเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่า หลังศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางแห่งแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวเณรคำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ตัวเณรคำเองก็ไม่ได้ของ อุทรณ์ใดๆ ขั้นตอนต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นเครื่องจากสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ ตี 3 ของเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเที่ยวบินของสายการบินไทย TG 677 และจะเดินทางถึงไทย ในช่วงกลางดึกของคืนนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยดีเอสไอได้จัดชุดไปรับเณรคำกลับมาที่สำนักงานดีเอสไอ และส่งตัวสั่งฟ้องต่ออัยการ เพื่อยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาทันทีในวันพรุ่งนี้ โดยไม่ต้องขอฝากขังระหว่างสอบสวน เพราะขณะนี้คดีมีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ส่วนอัยการจะแยกฟ้องเป็นรายคดีหรือขอรวมให้เป็นการพิจารณาคดีเดียวกัน เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันและมีผู้กระทำความผิดรายเดียวกัน
สำหรับคดีของเณรคำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ดำเนินคดีกับเณรคำ 2 คดี เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับทางเพศและคดีฉ้อโกง คือ 1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และพาไปเพื่อการอนาจาร และ2.ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เเละความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันเเละปราบปรามการฟอกเงิน โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับในปี 2555
เมื่อความผิดชัดเจนแล้ว พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งสำนวนมาที่พนักงานอัยการพิจารณา กระทั่งมีความเห็นควรสั่งฟ้องเณรคำ ผู้ต้องหาทั้งสองคดี ตามที่ดีเอสไอเห็นควรสั่งฟ้อง หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการออกหมายจับ แต่ปรากฎว่า หลวงปู่เณรคำหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่สหรัฐอเมริกา จากนั้นอัยการจึงดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่า เจ้าหน้ารัฐปฏิบัติตามหลักสากลทุกกระบวนการ
ส่วนประเด็นที่เณรคำไม่ขออุทรณ์ โฆษกอัยการ บอกว่า ไม่ทราบเช่นกัน ว่าเพราะเหตุใดเณรคำถึงไม่ขออุทรณ์ หลังจากนี้เณรคำจะเป็นพระอีกหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางดีเอสไอ พิจารณา อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุผลที่ เณรคำ ตัดใจไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากเงินทองที่นำติดตัวไปเมหมดอาจไม่พอใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงตัดสินใจกลับมาต่อสู้คดี
