ผู้ว่าฯกทม. เผยเหตุป่วนรวม 8-9 จุด ชาวบ้านเจ็บ 1 พนักงานกวาดขยะเจ็บ 2 ยันนั่ง ผอ.ศูนย์ตามสถานการณ์เอง ตั้งให้ข้อมูลสนับสนุนฝ่ายความมั่นคง 24 ชม. ลั่นวงจรปิดจุดเกิดเหตุใช้ได้ทุกตัว วอนประชาชนช่วยสอดส่อง
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้บริหารของ กทม.ถึงเหตุการณ์คล้ายระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม.และ จ.นนทบุรี ว่าทาง กทม.ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ ทั้งเหตุลอบวางวัตถุต้องสงสัยหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วานนี้ (1 ส.ค.) และเหตุการณ์ในวันนี้ (2 ส.ค.) ที่มีเหตุต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น เหตุเพลิงไหม้ 4 จุด เมื่อเช้านี้, เหตุเสียงดังคล้ายระเบิดและพบวัตถุต้องสงสัยที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะรวม 4 จุด และแถวเขตสวนหลวงอีก 1 จุด มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นพนักงานทำความสะอาดของเขตสวนหลวง ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิรินธร 2 ราย, ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 2 จุด ระเบิด 1 จุด เก็บกู้ได้ 1 จุด และที่หน้าอาคารมหานคร 1 จุด รวมเหตุการณ์ทั้งหมดประมาณ 8-9 จุด
“ทาง กทม.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์เพื่อเกี่ยวกับฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทางตำรวจ ทหาร จะมาขอดูกล้องจากเรา เราก็เตรียมความพร้อมไว้ มีผมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีรองผู้ว่าฯ เป็นที่ปรึกษา และก็จะมี ผบ.เหตุการณ์ มีรองปลัด กทม., ศูนย์เอราวัณ, สำนักการจราจรและขนส่ง, สำนักการแพทย์, สำนักโยธา, สำนักเทศกิจ ต่างๆ เป็นองค์ประกอบ เข้าเวร 12 ชม.ตั้งแต่เที่ยงวันนี้จนถึงเที่ยงคืน และเที่ยงคืนจนถึงเที่ยงวัน หมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ เราก็คงจะต้องให้ข้อมูลสนับสนุนกับฝ่ายความมั่นคง” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์ว่าจะเลวร้ายขนาดไหน พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามฝ่ายความมั่นคง กทม.เป็นเพียงฝ่ายสนับสนุน เราก็จะมี กอ.รมน.ของเราด้วย เราก็จะสนับสนุน แต่ส่วนงานปกติที่เขาทำก็จะมีตำรวจ พนักงานสอบสวนก็จะไปดูที่เกิดเหตุ หน่วยเก็บกู้อีโอดีของ สตช.และฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ และเรื่องนี้เราก็ได้รายงานไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและกำกับดูแล กทม.ด้วย
เมื่อถามถึงฝ่ายความมั่นคงได้ประสานมาทาง กทม.เพื่อขอข้อมูลด้านไหนบ้าง พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกล้อง เราก็ให้อยู่แล้ว และเรื่องหาพยานบุคคล ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ทาง กทม.ก็ได้แจ้งไปทางผู้อำนวยการเขตทุกสำนักงานเขตให้ดูบุคคลต้องสงสัย วัสดุสิ่งของที่ต้องสงสัย ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดของ กทม.บริเวณจุดเกิดเหตุสามารถใช้งานได้ทุกตัวหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ใช้ได้ทุกตัว เดี๋ยวจะเชื่อมโยงเข้ามาที่ศูนย์ฯ เราก็ต้องดูด้วยเพื่อหาเอกสารหลักฐานให้เขา
ทั้งนี้พล.ต.อ.อัศวินกล่าวถึงกรณีลงพื้นที่ว่า เราไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ตรงนี้ฝ่ายความมั่นคงกับตำรวจ สมมติเขาบอกให้หาพยานให้ เฝ้าระวัง เราก็จะมีพวกพนักงานเทศกิจตามเขตช่วยกันสอดส่องดูแลในส่วนของ กทม. และช่วยสนับสนุน ในส่วนของการช่วยรวบรวมหลักฐานต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไร
“อย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่าให้ช่วยกันสอดส่องดูแลวัตถุต้องสงสัย บุคคลต้องสงสัย อย่างคนเอาอะไรมาทิ้งไว้ในพุ่มไม้ ถังขยะ หรือแอบซ่อนในส่วนหนึ่งส่วนใดก็ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ทาง กทม.ก็เต็มที่ ให้ทุกสำนักงานเขตช่วยกันสอดส่องดูแล และประชาชนคนใดพบวัตถุต้องสงสัยให้แจ้งสำนักงานเขตฯ หมายเลข 191 หรือฝ่าย กอ.รมน. แต่อย่าไปแตะต้องหรือสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะว่าเราไม่มีความรู้ความเข้าใจตรงนี้ เกรงว่าจะเกิดอันตรายได้” พล.ต.อ.อัศวินกล่าวฃ
อ่านข่าว Bright Today