การดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม เป็นคำเตือนที่เห็นทุกครั้งในโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง หรือแม้กระทั่งข้างขวด เป็นคำเตือนที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัด ถ้าถามถึงสาเหตุก็คงไม่พ้นเรื่องผลกระทบเกี่ยวกับโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ที่จะตามมาภายหลัง ในแต่ละปีมีงานวิจัยที่ระบุถึงหลากหลายความเสี่ยงรุนแรงต่อสุขภาพที่มีต่อเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น ความเสียหายของตับ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น การกัดเซาะฟันและอื่น ๆ
ถึงแม้จะมีคำเตือนออกมา ในสหรัฐอเมริกาก็ยังคงนิยมใช้เครื่องดื่มชูกำลังอยู่ดี ตามที่หน่วยงาน National Center for Complementary and Integrative Health หรือ NCCIH สำรวจได้คือ ในชีวิตประจำวันเกือบ 1 ใน 3 ของวัยรุ่นที่ดื่มเป็นประจำคือช่วงอายุ 12 ปี และ 17 ปี
ล่าสุดได้มีการวิจัยใหม่ที่จะนำเสนอในการประชุมของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา ที่ชิคาโก้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพียงครั้งเดียว อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเส้นเลือดได้ ?!?
สำหรับการศึกษาครั้งนี้นักวิทยาศาสตร์จากโรงเรียนแพทย์ในเมืองฮูสตัน ได้สำรวจนักเรียนอายุน้อยที่ไม่เคยดูดบุหรี่จำนวน 44 คน และนักเรียนที่สุขภาพดีอีก 20 คน พวกเขาทดสอบการทำงานพื้นฐานเอนโดธีเลียมของหลอดเลือด หรือการทำงานของหลอดเลือด (baseline endothelial function or blood vessel function) และทดสอบรอบที่ 2 เมื่อครบ 90 นาที โดยตั้งสมมติฐานว่าการทำงานในหลอดเลือดของผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง 1 แก้ว หรือ 24 ออนซ์ จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหรือไม่ นักวิจัยยังได้บันทึกถึงการขยายตัวของหลอดเลือดแดงด้วยการอัลตราซาวด์ ที่แสดงให้เห็นถึงสุขภาพโดยรวมของหลอดเลือดทั้งก่อนและหลังการทดลอง
หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพียงแค่ 1 แก้ว ก็ค้นพบว่าเกิดความบกพร่องเฉียบพลันในการทำงานของหลอดเลือด จากปกติการขยายหลอดเลือดในระดับพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.1% และหลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง 90 นาที การขยายหลอดเลือดลดลงถึง 2.8%
จากที่ John Higgins หัวหน้านักวิจัยได้ทำการศึกษา ค้นพบว่า ความสามารถในการควบคุมการไหลเวียนของเลือดและการส่งต่อออกซิเจนลดลง เพราะหัวใจทำงานมากขึ้น การไหลเวียนของออกซิเจนน้อย นั่นหมายความว่าทำไมเด็กถึงมีภาวะหัวใจหยุดเต้นหลังดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ผลกระทบของการลดลงนั้นจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคไขข้ออื่นๆ
ในขณะที่การศึกษาเฉพาะกลุ่มผู้ทดสอบขนาดเล็ก และเห็นผลกระทบเฉียบพลันของเครื่องดื่มชูกำลัง ส่งผลให้ทีมวิจัยเชื่อว่าการรวมกันของคาเฟอีน ทอเรเนียม น้ำตาล และส่วนผสมอื่น เป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อร่างกาย
สมาคมโรคหัวใจอเมริกันได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า “น้ำตาลเป็นส่วนประกอบของสารอาหาร แต่ถ้าบริโภคในปริมาณหลายแคลอรี่ก็สามารถนำไปสู่โรคอ้วนและโรคหัวใจได้” ขณะเดียวกันคาเฟอีนก็ยังมีส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวันจำกัดที่ 400 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เครื่องดื่มชูกำลังบางชนิดมีปริมาณมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อออนซ์ ถึงอย่างนั้นบริษัทผู้ผลิตก็ยังยืนยันว่าเครื่องดื่มของพวกเขาปลอดภัย
ตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “เครื่องดื่มชูกำลังให้พลังงานประมาณครึ่งหนึ่งของกาแฟที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ได้รับการศึกษาและการยืนยันโดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยของรัฐบาลทั่วโลกว่าสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย” และโต้ว่าในความเป็นจริงทางการแพทย์ยังไม่มีเครื่องมือที่เป็นที่ยอมรับในงานวิจัยขั้นพื้นฐานนี้
ทีมผู้วิจัยจำเผยแพร่ผลการวิจัยที่ได้รับการพิจารณาแล้วในเบื้องต้น และทำการตีพิมพ์ในวารสาร PEER-REVIEWED ต่อไป
ที่มา www.ajc.com
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
ข้อควรรู้…ก่อนตัดสินใจผ่าตัด รังไข่