ขี้เกียจเคลื่อนไหว เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจในผู้หญิง

สาวน้อยสาวใหญ่คนไหนไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่ค่อยทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย หรืออยู่ในข่าย ‘ผู้หญิงขี้เกียจ’ ระวังนะคะ! เพราะมีการศึกษาชี้ว่าพฤติกรรมแบบนี้กำลังเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจให้ตัวคุณเองมากถึง 42% เลยทีเดียว

มีการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Circulation เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ส่งสัญญาณเตือนมาครั้งหนึ่งแล้วค่ะว่าการนั่งนานเกินไป ‘เป็นโทษ’ ต่อร่างกายถึงขั้นก่ออันตรายถึงชีวิตได้โดยเฉพาะในผู้หญิงสูงวัย ซึ่งจากการทดสอบผู้หญิง 5,638 คนที่มีอายุระหว่าง 63-97 ปี แสดงให้เห็นว่าทุก ๆ ชั่วโมงของการใช้ชีวิตประจำวันตามปกตินั้นสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง 12%

และเมื่อไม่นานมานี้ ‘JAMA Network’ ได้เผยแพร่การศึกษาที่มีการติดตามผู้หญิงกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระหว่าง 63-99 ปี จำนวน 5,861 คน เป็นระยะเวลานาน (cohort study) โดยก่อนเริ่มการวิจัยทุกคนถือว่าอยู่ในข่ายของบุคคลที่มีสุขภาพดี ซึ่ง 1 ใน 3 มีเชื้อชาติแอฟริกันอเมริกัน, 17% เป็นสเปน และ 48% เป็นหญิงผิวขาว ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างแต่ละคนจะมีอุปกรณ์วัดปริมาณการออกกำลังกายและความเข้มข้นของกิจกรรมดังกล่าวตลอดทั้งสัปดาห์เป็นเวลาประมาณ 5 ปี

ผลที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือในผู้หญิงสูงวัยจำนวนเกือบ 6,000 คนนี้ มีจำนวน 143 คนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอีก 570 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

ทั้งนี้ นักวิจัยชี้ถึงต้นเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรงว่าขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวร่างกายนั่นเองค่ะ โดยหญิงสูงวัยที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมเบาๆ ที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายประมาณ 5-10 ชั่วโมงต่อวัน ถือเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ด้านสุขภาพมากที่สุด ซึ่งในภาพกว้างพบว่ากลุ่มผู้หญิงที่ตื่นตัว แอคทีฟ และมีการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยกิจกรรมต่างๆ มากกว่า มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่ากลุ่มที่แอคทีฟน้อยกว่าถึง 42% แถมแนวโน้มการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจยังน้อยกว่า 22% ด้วย รวมถึงมีค่าดัชนีมวลกายต่ำและความดันโลหิตลดลง

‘Andrea LaCroix’ ผู้เขียนหลักของการศึกษาแนะนำว่า กิจกรรมที่หญิงสูงวัยควรทำไม่จำเป็นต้องเป็นการออกกำลังกายก็ได้ เพราะเพียงการเต้นรำเบาๆ การทำความสะอาดบ้าน เดินออกไปรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์หน้าบ้าน หรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่เราไม่คิดว่าเป็นการออกกำลังกาย แต่ใช้เวลามากในการทำและเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวก็ถือว่าดีมากแล้ว

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำคือ การเลี้ยงสุนัข (หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ) เนื่องจากสุนัขจะช่วยบังคับให้เราได้ใช้เวลาเดินเล่นนอกบ้านมากขึ้นนั่นเอง ส่งผลดีความดันโลหิตและลดระดับความเครียดได้อีกด้วย แต่หากสุนัขเป็นทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้ นักวิจัยเสริมว่าให้ลองทำอาหารทานเองให้มากขึ้น เพราะการปรุงอาหารที่บ้านจะทำให้คุณกินคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันน้อยกว่าคนที่เข้าครัวรน้อย หรือไม่เคยเข้าครัวเลย โดยเคยมีรายงานว่าคนที่มีน้ำหนัก 150 ปอนด์ ซึ่งใช้เวลาทำอาหารครึ่งชั่วโมง สามารถใช้พลังงานได้ถึง 78 แคลอรีเลยทีเดียว