ผู้ปกครองสามารถป้องกันอาการและภาวะซึมเศร้าของเหล่าเด็ก ๆ ได้ด้วยการสื่อสารโดยใช้ความจริงใจและการเปิดใจรับฟังในการพูดคุยเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าพ่อแม่คือคนที่สามารถพูดคุยและปรึกษาได้ทุกเรื่อง โดยเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาใหม่จากนักจิตวิทยาของ Wellesley College
การศึกษาเรื่องนี้ดำเนินการโดยผู้ช่วยศาตราจารย์ด้านจิตวิทยา Sally A. Theran พบว่า ทั้งวัยรุ่นชายและหญิงที่รู้สึกว่าการสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ปกครองหรือครอบคัวของตัวเองในแต่ละวันว่า มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีเรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกไม่ดี หรือกำลังรู้สึกสับสนอะไรอยู่ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าน้อยกว่าวัยรุ่นทั่วไป
สำหรับข้อมูลในการศึกษาเรื่องนี้ ทำโดยการรวบรวมข้อมูลจากการกรอกแบบสอบถามของกลุ่มวัยรุ่น จากข้อมูลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวส่งผลต่อทั้งเด็กผู้ชายและผู้หญิง โดยพบว่า ปัจจุบันแล้วภาวะโรคซึมเศร้าในเด็กมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงอายุ 12-17 ปี เป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ภาวะซึมเศร้าที่เกิดกับเด็กผู้หญิงมักมาจากเรื่องฮอร์โมนและการเข้าถึงสื่อออนไลน์ ส่วนเด็กผู้ชายเกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว
Ramin Mojtabai นักเขียนชื่อดังกล่าวว่า “วัยรุ่นขาดความเข้าใจในความสัมพันธ์ ความแตกต่างของแต่ละบุคคล และความสัมพันธ์กับครอบครัว เป็นต้นเหตุซึ่งในงานวิจัยไม่พบว่าวัยรุ่นจะเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า ถ้าเกิดปัญหาคล้ายกันนี้กับเพื่อนร่วมงาน จึงได้ข้อสรุปว่า เพื่อนอาจมีความสำคัญ แต่ครอบครัวสำคัญกว่า”
โดยมีคำแนะนำว่า “ผู้ปกครองควรตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลง และความผิดปกติของลูก จงพยายามสื่อสารอย่างเปิดเผย และยอมรับฟังปัญหาทางจิตใจของลูก หากพบว่าลูกมีอาการซึมเศร้านานกว่าสองสัปดาห์ อาจจะพาไปพบผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เด็กบางคนหายจากอาการซึมเศร้าด้วยการบำบัดจากครอบครัว พ่อแม่จึงเป็นส่วนสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ”
ที่มา parents
ที่มารูป Pixabay
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
ปรับความคิดเปลี่ยนนิสัย ทำแล้วจะโชคดีกว่าเดิม
จริงหรือไม่ การเลื่อนตั้งปลุก ทำให้เสียสุขภาพ?
จริงหรือไม่ ยิ่งมืดยิ่งเย็นยิ่งรับมือยากกับ ความเครียด
เพราะคำว่า อะไรก็ได้ อันตรายมากกว่าที่คุณคิด
5 วิธีเปลี่ยน Self-Talk ทำได้ง่ายกว่าที่คิด