“โฆษณาเกินจริง” บนเครื่องสำอาง อาหารเสริม บอกอะไร?
โฆษณาเกินจริง เป็นเทคนิคการตลาดที่แพร่หลายมากโดยเฉพาะกับสินค้าความงาม ทั้งเครื่องสำอางและอาหารเสริม มีการใช้คำพูดอธิบายสรรพคุณสินค้าให้ดูน่าสนใจ และในหลายครั้งคำพูดเหล่านั้นก็ไม่ใช่ความจริง ทำให้ผู้บริโภคหลายรายได้รับความเสียหายหรือผลกระทบจากการใช้สินค้าหลายต่อหลายอย่าง คำถามในวันนี้คือ “โฆษณาเกินจริง” เหล่านั้นบอกอะไรเราบ้าง เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ควรทำความเข้าใจให้ชัดเจนเสียตั้งแต่ตอนนี้
โฆษณาเกินจริงคืออะไร?
โฆษณาเกินจริง คือการกล่าวอ้างถึงสรรพคุณของสินค้าที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง มักพูดไปในทิศทางบวก เพื่อให้ผู้ที่กำลังประสบปัญหาเหล่านั้นอยู่ เกิดความต้องการในสินค้าเพื่อนำมาแก้ไขปัญหา ขณะที่สินค้าเหล่านั้นมักให้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับคำโฆษณาที่ได้กล่าวอ้างไว้ เป็นหนึ่งในเทคนิคการตลาดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้บริโภค จริงๆ แล้วการโฆษณาเกินจริง เป็นวิธีการขายของที่มีมาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัย แต่ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้เสียที
ทำไมคนถึงเชื่อในโฆษณาเกินจริง?
เพราะคำโฆษณาเกินจริงมีการใช้ถ้อยคำที่โน้มน้าวจิตใจผู้บริโภคและเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภคโดยตรง อย่างเช่นในคนที่กำลังอยากผอม คำโฆษณาเหล่านี้มักใช้คำชักชวนคนที่กำลังอยากผอมด้วยข้อความดึงดูดหรือตรงใจ เช่น ลด 10 โลภายใน 2 สัปดาห์ เป็นต้น แม้มันจะฟังดูเว่อเกินเหตุ แต่คนที่กำลังอยากผอมไม่ได้รู้สึกแบบนั้น พวกเขากลับรู้สึกตื่นเต้นไปกับมันและมีความต้องการในสินค้าขึ้นมาทันที เหตุผลที่คนเชื่อในโฆษณาเกินจริงแบบนี้มีความเกี่ยวข้องกับหลักทางจิตวิทยา เพราะมันเชื่อมโยงเอาไว้ด้วยความรู้สึกของคนที่กำลังประสบปัญหา กระตุ้นความต้องการด้วยข้อความที่แสดงออกถึงผลลัพธ์อันน่าทึ่ง
ไม่ผิดหรอกที่คนจะเชื่อในโฆษณาเหล่านั้น เพราะคนที่กำลังประสบปัญหาย่อมต้องการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา และความต้องการในผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เปรียบได้กับคนที่กำลังหลงทางและต้องการทางออก เมื่อเดินมาเจอใครสักคนช่วยบอกทาง เขาเหล่านั้นย่อมปักใจเชื่อและเดินไปตามทางนั้นอย่างง่ายดาย โดยไม่ทันได้ไตร่ตรองดูว่าหนทางนั้นมันเป็นทางเข้าถ้ำเสืออยู่หรือเปล่า
รู้ทันคำโฆษณาเกินจริงด้วยสติ
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าโฆษณาเกินจริงก็คือการ “หลอกล่อ” ดีๆ นี่เอง และมีการใช้จิตวิทยาเข้ามาช่วยในการหลอกล่อนั้น การเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภค เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคทุกคนควรทำความเข้าใจเสียใหม่เพื่อให้ตนเอง “รู้ทัน” กับกลลวง สำคัญที่สุดคือ “สติ” ทุกคนควรใช้สติในการตัดสินใจที่จะเชื่อคำโฆษณาและพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลก่อนเลือกซื้อ และควรทำความเข้าใจร่วมกันตรงนี้ถึงสิ่งที่โฆษณาเกินจริงกำลังบอกกับเรา ได้แก่
1.ข้อมูลที่เป็นเท็จ
ตระหนักไว้เสมอว่าคำโฆษณาที่ดูเว่อวังอลังการเกินไป “ย่อมไม่ใช่ความจริง” ไม่ควรเชื่อและควรเลิกสนใจไปเสีย หรือให้หาข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาไขข้อสงสัยทันที เพื่อที่จะพาตัวเองออกมาจากการหลอกล่อนั้น
2.ภาพลักษณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
คำโฆษณาเกินจริงบอกถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะสินค้าที่ดีและมีคุณภาพย่อมบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภค แม้จะเป็นการอธิบายสรรพคุณสินค้า ก็จะอธิบายด้วยหลักการที่สมเหตุสมผล หรือไม่ใช่ข้อความที่ดูเว่อจนเกินไป ดังนั้นคำโฆษณาเกินจริงจึงบอกได้ว่าแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์ที่ไม่น่าไว้วางใจเลยแม้แต่น้อย
3.ดูถูกผู้บริโภค
โฆษณาเกินจริงยังบอกได้อีกว่าแบรนด์กำลัง “ดูถูก” ผู้บริโภคอยู่ เขาเชื่อว่าผู้บริโภคไม่มีทางรู้ทันเขา หรือเชื่อว่าผู้บริโภคเป็นพวกขาดความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังนำเสนออยู่โดยสิ้นเชิง
4.ความไม่จริงใจ
สุดท้ายแล้วการโฆษณาเกินจริง ยังแสดงออกถึงความไม่จริงใจของแบรนด์ เขาเพียงต้องการสร้างรายได้จากความงมงายในข้อความหลอกลวงของเขาเท่านั้น
หากผู้บริโภคเข้าใจถึงความหมายและสิ่งที่แฝงอยู่ในการสื่อสารผ่านโฆษณาเกินจริงเหล่านั้น ผู้บริโภคจะไม่ตกหลุมพรางและพลาดไปซื้อสินค้าดังกล่าวจนได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ดังนั้นทุกคนควรทำความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้ให้ดีเพื่อรู้เท่าทันกับเทคนิคการหลอกล่อเหล่านั้น