โรคเบาหวานการป้องกัน ถือเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ เห็นได้จากสถิติของผู้ป่วยโรคนี้ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และยังเกิดขึ้นกับทุกช่วงอายุ ไม่เว้นแม้กระทั่งในวัยเด็ก
จริง ๆ แล้วโรคนี้สามารถป้องกันได้เพียงรู้วิธีที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือในแต่ละช่วงวัยย่อมมีวิธีการดูแลป้องกันที่ต่างกันออกไป เพราะการรับรู้ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยจะแบ่งได้เป็น 4 ช่วงวัยด้วยกัน ได้แก่
- วัยเด็กถึงเด็กประถม
พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็ก เริ่มจากกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม คอยระวังน้ำตาล แป้ง และไขมัน เน้นการดื่มน้ำเปล่าและนมรสจืด แทนน้ำหวาน, น้ำอัดลม นอกจากนี้ยังต้องสอน ให้ออกกำลังกายเป็นประจำ สำหรับในเด็กที่อายุมากกว่า 10 ปีที่มีภาวะอ้วน ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาล และวินิจฉัยโรคเบาหวาน
- วัยรุ่น
ในวัยนี้ควรปลูกฝังพฤติกรรมการกิน พยายามลดการกินอาหารประเภทจังก์ฟู้ด โดยเน้นโปรตีน, ผัก, ผลไม้ ลดแป้ง, น้ำตาล, ไขมัน คอยระวังน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ และที่สำคัญเลยคือควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 – 3 วัน
- วัยทำงาน
ควรมีการควบคุม เรื่องการรับประทานอาหาร และน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ระวังปริมาณแป้งและน้ำตาลในแต่ละวัน ถึงแม้จะทำงานหนักแค่ไหนอย่าละเลยการออกกำลังกาย ควรทำให้ได้สัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ตรวจสุขภาพเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ถ้ามีกรรมพันธุ์คนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวาน ก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้น 50% เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานจะเพิ่มขึ้นตามความเสื่อมของร่างกายอีกด้วย
- วัยสูงอายุ
ระวังการทานแป้งและน้ำตาล ควบคุมปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันอย่างเคร่งครัด เน้นการรับประทานผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ หรือใยอาหารสูง เพราะจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เน้นกีฬาที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เช่น ยกเวท โยคะ เป็นต้น ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี หรือหากป่วยเป็นเบาหวาน ควรต้องดูแลตนเอง และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่ยังไม่ได้ป่วย เป็นโรคเบาหวาน ก็ควรดูแลกัน โดยระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารเป็นหลัก รวมถึงควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหาร และชวนกันไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง และคนที่คุณรัก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำไมรู้สึก เหนื่อยตลอดเวลา เกิดจากสาเหตุอะไร ?
“โรคหืด”ที่หลายคนมองข้ามไป แต่คร่าชีวิตคนไทยนับพัน
จริงหรือไม่? นอนน้อย กว่า 6 ชม. ร่างกายขาดน้ำ
