ศาลนครพนมออกหมายจับครูจอมทรัพย์-ครูอ๋อง ที่ปั่นแต่งนำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล ด้านตำรวจจ่ออีกหนึ่งคดี ฐานว่าจ้าง-รู้เห็นในขบวนการรับจ้างรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ หลังนายสับ วาปีให้การพาดพิง
โดยความคืบหน้าคดีคุณครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ล่าสุด ศาลจังหวัดนครพนมได้อนุมัติหมายจับแล้ว ในข้อหานำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล คดีอาญาเลขที่ 828/60 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 180 วรรค 2 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมนำตัวนายสับ วาปี และนางจันทร์ วาปี ภรรยา พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่ม คือมีความผิดให้การเท็จ 2 ข้อหา และเบิกความเท็จอีก 1 ข้อหา พร้อมนำสำนวนการสอบสวนส่งอัยการเพื่อพิจารณายื่นฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดนครพนมต่อไป ส่วนนายเลิศ และนายบุญเทิง วาปี เครือญาติของนายสับ ตำรวจสอบสวนแล้ว เชื่อได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ จึงได้บันทึกปากคำไว้แล้วปล่อยตัว
ด้านนายสับ วาปี เปิดใจ ว่าตนยอมรับสภาพทุกอย่างไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมารูปแบบไหน เพราะได้รับการว่าจ้างจากครูอ๋อง แต่กลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลง ต่อมาจึงคิดกลับคำให้การในชั้นศาล จึงถูกกันออกไม่ให้เป็นพยาน โดยมาถึงวันนี้ตนพร้อมให้ข้อมูลตามความเป็นจริงทุกอย่าง และที่ทำไปเพราะลำบากยากจนอยากได้เงิน และครูอ๋อง นำทนายมาพูดจากเกลี่ยกล่อมให้รับจ้าง จนเชื่อสนิทว่าจะไม่ได้รับโทษ ไม่ได้เงินแต่กลับแถมรับโทษอีก
ส่วนความเคลื่อนไหวครูจอมทรัพย์ มีรายงานข่าวว่า ขอสงบจิตใจ “เจ็บมามาก ขอพักผ่อน” ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นให้ไปถาม นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และนายสับ เอง เพราะตอนที่เริ่มรื้อฟื้นคดีตนยังอยู่ในเรือนจำ จึงไม่รู้เรื่อง
พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.นครพนม เผยว่า สำหรับคดีขบวนการรับจ้างรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ตำรวจพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงครูจอมทรัพย์ชัดเจน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในขบวนการรับจ้างมาตั้งแต่ต้น โดยทางตำรวจได้หลักฐานจากการขยายผลคำให้การของนายสับ วาปี หนึ่งในผู้ต้องหาสำคัญ โดยความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปีขึ้นไป ทำให้ไม่ต้องออกหมายเรียก แต่สามารถเสนอขอต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับได้เลย