“ปริญญา” จี้เปิดชื่อคกก.สรรหาส.ว. ดักคอต้องทำให้โปร่งใส เชื่อสังคมอยากเห็นส.ว.ฟรีโหวต หนุนตีความสถานะ “บิ๊กตู่” ให้ชัด
6 มี.ค.62-นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณียังไม่มีการเปิดเผยชื่อคณะกรรมการ ส.ว.ในขณะนี้ว่า ต้องยึดหลักการโปร่งใส ให้เปิดเผยรายชื่อกรรมการสรรหา เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่บอกประชาชนให้ทราบ เพราะจะยิ่งทำให้สงสัย พร้อมตั้งคำถามหนักกว่าเดิมว่าเหตุใดถึงบอกไม่ได้ ถ้าบอกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเป็นเรื่องที่ต้องตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ของคสช.ในการตั้งใครก็ได้ โดยเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ประชาชนประชามติมา ดังนั้นต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องของความโปร่งใส หลักนิติรัฐ นิติธรรม ทั้งชื่อกรรมการสรรหาบุคคลซึ่งจะเป็นตัวแทนปวงชนและเลือกนายกฯร่วมกับส.ส.จะเป็นใครบ้าง
“คิดว่าเมื่อเริ่มเปิดประชุมสภาผู้แทน มีเลือกนายกฯ กระแสตอนนั้นสำหรับคนที่เพิ่งเลือกตั้งเสร็จ อาจจะอยากเห็นส.ว.ฟรีโหวตก็ได้ การเมืองตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ลำพังเสียง ส.ว.ก็ไม่ใช่จุดที่จะบอกได้ว่า คสช.จะเป็นรัฐบาลแน่นอน อยู่ที่ประชาชนตัดสิน และโอกาสของพล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะมาเป็นที่ 1 หนึ่งหรือไม่”นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ขณะที่คุณสมบัตินายกฯ ยังประเด็นสำคัญอยู่ที่การตีความว่า ตำแหน่งหัวหน้าคสช.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าคสช.ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง เพราะมาจากการยึดอำนาจ แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการตีความว่าเป็นข้าราชการการเมืองจึงได้รับการยกเว้นคุณสมบัติต้องห้าม แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าจะตีความว่าหัวหน้าคสช.เป็นข้าราชการการเมืองหรือไม่ หรือต้องมีคำอธิบายว่าเหตุใด หัวหน้าคสช.ถึงเป็นข้าราชการการเมือง เพราะข้าราชการการเมืองหมายถึงอยู่โดยมีวาระ และอีกวิธีหนึ่งต้องวินิจฉัยว่าหัวหน้าคสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องอธิบายอีกเช่นกันว่า เป็นตำแหน่งที่มีเงินเดือนประจำ มีอำนาจตามมาตรา 44 ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ เป็นที่สุด ดังนัินศาลต้องตรวจสอบว่าอำนาจที่มากขนาดนี้จะไม่นับว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ แต่อยู่ที่การอธิบายเหตุผล คนตรวจสอบก่อนเลือกตั้งคือกกต. แต่มีการตรวจสอบภายหลังอำนาจอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ