กระทรวงยุติธรรมยืนยัน ไม่มีคำสั่งกรณีนายกรัฐมนตรีสั่งรื้อคดี ตำรวจยะลานำหมายศาลจับหญิงชาวกาฬสินธุ์
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีข่าว “บิ๊กตู่” สั่งยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ รื้อคดีตำรวจยะลานำหมายศาลจับหญิงชาวบ้าน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เข้าคุก กระทั่งแม่เหยื่อต้องอุ้มหลานไปร้องขอความเป็นธรรม
โดยตามข้อเท็จจริงคดีนี้เป็นกรณีที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดยะลาได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ช่วยลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากมีผู้ไปขอรับ
ความช่วยเหลือเงินจากกองทุนยุติธรรมในการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาหญิงรายหนึ่ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ที่ 7 ตำบลสระพังทอง อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ว่า
มีฐานะยากจนจนไม่สามารถเข้าถึงความเป็นธรรมได้ด้วยตนเองหรือไม่
และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเป็นภูมิลำเนาของผู้ขอรับความช่วยเหลือจริง โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลสระพังทอง
ร่วมลงพื้นที่และหาแนวทางในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งพบว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจน โดยมีมารดาอายุ 63 ปี พี่สะใภ้อายุ 43 ปี น้าสาวอายุ 51 ปี
และบุตรชายผู้ขอรับความช่วยเหลืออายุ 8 ปี อาศัยอยู่ด้วย และมีนายประเสริฐ แสงนิกุล ผู้ใหญ่บ้านให้ข้อมูลรับรอง และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดยะลาทราบเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือแล้ว
ด้าน นางวราภรณ์ เปล่งแสง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว ยังไม่ถึงขั้นที่จะสามารถระบุได้ว่า ใครตกเป็นแพะ หรือแกะ โดยอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากหญิงวัย 37 ปี ถูกจับข้อหา ฉ้อโกง ในพื้นที่จ.ยะลา และเจ้าหน้าได้เข้ามาจับกุมในพื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งผู้ต้องหาขอสู้คดี และขอใช้สิทธิ์กองทุนยุติธรรม เพื่อประกันตัวสู้คดี เนื่องจากทางบ้านยากจน ก่อนที่ทางสำนักยุติธรรมจังหวัดยะลาได้ประสาน สำนักงานยุติธรรมกาฬสินธุ์ ให้ดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว