ยะลาวิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม 6 อำเภอ ปิด 12 โรงเรียน นราธิวาสน้ำท่วมขังถนนหลายสาย
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดยะลาเข้าสู่วันที่ 6 วิกฤติหนัก ยังคงมีฝนตกปกคลุมเกือบทุกพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำสายหลักทั้ง แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี มีระดับสูงขึ้นมากว่า 1 เมตร
ส่งผลให้น้ำขยายวงกว้าง ชาวบ้านต้องอพยบไปที่ปลอดภัย ถนนหลายสารถูกน้ำท่วม หลายหมู่บ้านน้ำท่วมตัดขาดจากโลกภายนอก ต้องใช้เรือในการสัญจรแทน และโรงเรียนถูกน้ำท่วมหลายแห่งโดยมีรายงานล่าสุด จากสำนักเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 ว่ามีโรงเรียนที่ประกาศหยุดการเรียนการสอน แล้ว 12 โรง ใน อ.เมือง 7 โรงเรียน ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านบาโด โรงเรียนบ้านพรุ
โรงเรียนบ้านไทรงาม โรงเรียนบ้านจาหนัน โรงเรียนบ้านต้นหยี โรงเรียนบ้านทุ่งเหรียง โรงเรียนบ้านลิดล ในพื้นที่อ.รามัน 5 โรงเรียน ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านโต๊ะปาเก๊ะ โรงเรียนบ้านตะโละสตาร์ โรงเรียนบ้านจะรังตาดง โรงเรียนบ้านไม้แก่น และโรงเรียนบ้านปาดาฮัน โดยปิดอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ได้ออกประกาศให้พื้นที่ 6 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน อำเภอบันนังสตา อำเภอยะหา อำเภอยะหา อำเภอธารโต และอำเภอกาบัง ส่วนที่เหลืออีก 2 อำเภอ คืออำเภอกรงปินัง และอำเภอเบตง อยู่ในระหว่างการสำรวจพื้นที่เกิดน้ำท่วม สำหรับพื้นที่อำเภอรามัน น้ำท่วมสูงในพื้นที่ 6 ตำบล คือตำบลอาซ่อง ตำบลบาลอ ตำบลกายูบอเกาะ ตำบลตะโละหะลอ ตำบลท่าธงและตำบลกะรอ โดยเฉพาะตำบลอาซ่อง ในพื้นที่บ้านกำปงบาโง บ้านปายอแง บ้านบูเกะซืองอและบ้านสะโต หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 300 หลังคาเรือนส่วนพื้นที่ อ.เมืองยะลา ประกอบด้วยตำบลท่าสาป ต.สะเตงนอก และในเขตเทศบาลนครยะลา ย่านตลาดเก่า น้ำท่วมบ้านเรือนราษฏรขยายวงเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานี เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางสายทางน้ำ ที่เป็นการก่อสร้างอาคารบ้านพักและมีการถมที่เพื่อยกระดับ หนีน้ำท่วม ทำให้การไหลของน้ำมีปัญหาเกิดความล่าช้า
ด้านพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนักน้ำฝนไหลลงท่อไม่ทันเกิดน้ำท่วมขังถนนหลายสาย โดยเฉพาะที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงถนนระแงะมรรคา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส
ทำให้เกิดน้ำขังบนผิวถนนประมาณ30 ซม.ระยะทางยาง ประมาณ 30 เมตร และที่บริเวณวงเวียนนกสันติภาพมีน้ำขังสูง 30 ซม.รถจักรยานยนต์และรถยนต์ของชาวบ้านที่สัญจรไปมา ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เพียงเลนส์ขวาเลนส์เดียวอีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเสียอยู่เลนส์ด้านซ้ายเนื่องจากน้ำท่วมสูงเลนส์ซ้ายสุดนอกจากที่ถนนบริเวณสายหน้าโรงเรียนพิมานวิทย์ตัดกับถนนเยาวราชเกิดน้ำท่วมสูงเช่นกันทำให้ทำให้รถยนต์ทุกชนิดต้องชะลอความเร็วลงเพื่อให้รถจักรยานยนต์สามารถวิ่งแล่นผ่านไปได้โดยง่าน ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวต้องนำถัวขยะสีน้ำเงินที่ทางเทศบาลมาวางไว้ให้ชาวบ้านใช้ต้องกลายเป็นถังขยะใช้เพื่อปิดเลนส์ถนนเพื่อให้ผู้สัญจรไปมาต้องชะลอรถเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าบ้านเรือน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายมาวางทับไว้ที่บริเวณหน้าประตูบ้านเพื่อกั้นไม่ให้น้ำเข้าท่วมบ้าน แต่เมื่อฝนซาลงไม่นานน้ำขังบนถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสก็ลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติ