กรณี เยาวชนอายุ 17 ปี ฆาตรกรโหดฆ่าข่มขืนยายวัย 73 คาบ้านพัก ถูกจับได้อ้างแค่หวังชิงทรัพย์ แต่ ตร.ไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดส่งควบคุมตัวที่สถานพินิจแล้ว ขณะที่ญาติ และชาวบ้านเรียกร้องประหารชีวิตโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ทำได้กระทั่งคนแก่ไม่มีทางสู้
วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ และจุดที่คนร้าย นั่งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีภายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบสวนนายนิล เยาวชน วัย 17 เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุฆ่ายายจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนอยู่บ้านถัดจากบ้านผู้เสียชีวิตไป 2 หลัง จนถึงเวลา 22.00 น.เศษ ก็แยกย้ายกัน
หลังจากแยกย้ายนายนิล ได้แอบใช้มีดงัดเข้าประตูหลังบ้านของยายเพื่อจะเข้าไปชิงทรัพย์ แต่ยายซึ่งนอนหลับอยู่ได้รู้สึกตัวตื่นจึงเกิดการต่อสู้กัน แต่เนื่องจากยายอายุมากแล้ว จึงสู้แรงไม่ไหว จากนั้นก็ใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจนยายนอนแน่นิ่งก่อนจะใช้มือบีบคอจนมั่นใจว่าเสียชีวิต แล้วจึงขโมยเอาเงินจากผู้ตายไปจำนวน 2,190 บาท ก่อนจะหลบหนีไปแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน แต่ตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อจึงต้องรอผลตรวจยืนยันทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหานายนิล เยาวชนวัย 17 ปี 3 ข้อหา คือ “ชิงทรัพย์ บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า” ส่วนข้อหาข่มขืนนั้น ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวที่สถานพินิจเด็ก และเยาวชนจ.บุรีรัมย์ส่วนบรรยากาศงานศพของยายวัย 73 ปี ก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ได้มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาไหว้ศพอย่างต่อเนื่อง และต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ทำได้แม้กระทั่งกับคนแก่ที่ไม่มีทางสู้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ก่อเหตุก็เป็นเยาวชนอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน
ด้านนางหนูชิด บุญมีป้อม น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมากสะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากเป็นไปได้ส่วนตัวก็อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกตามกันไป จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครแบบนี้อีก