ฆ่ากันตายในครอบครัวพุ่ง! ชี้การทำงานของเจ้าหน้าที่แค่บันทึกประจำวันเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดอาชญกรรม เตือนระบายความรู้สึกผ่านโซเชียลก่อความแค้นให้คู่กรณี
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวในการจัดเสวนาเรื่อง “วิกฤตความสัมพันธ์ในครอบครัวสู่ฆาตกรรมและความรุนแรง” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลร่วมกับเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และคณะทำงานปกป้องเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงทางสังคม โดยระบุว่า เพียงครึ่งเดือนแรกของเดือนมกราคม 2562 พบสถานการณ์ข่าวความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ ทั้งข่าวฆาตกรรม ฆ่ายกครัว ฆ่าหึงหวง เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ
จากการรวบรวมข่าวความรุนแรงในครอบครัวตั้งแต่วันที่ 1-16 ม.ค. 62 พบมี 28 ข่าว ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2561 ที่มีเพียง 10 ข่าว ในจำนวน 28 ข่าวนี้ จำแนกเป็นข่าวฆ่าคนในครอบครัวเดียวกัน 20 ข่าว ฆ่าตัวตาย 4 ข่าว และถูกทำร้ายสาหัส 4 ข่าว โดยเกือบครึ่งใช้ปืนเป็นอาวุธ ขณะที่ร้อยละ 41 เกิดจากเหตุหึงหวงขอคืนดีไม่สำเร็จ ร้อยละ 19 เมา เสพยา
นายจะเด็จ กล่าวต่อไปอีกว่า การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงจนนำไปสู่อาชญากรรม เพราะมักทำเพียงบันทึกประจำวัน เน้นไกล่เกลี่ย ทำให้พฤติกรรมบางอย่างไม่ถูกปรามลงจนลุกลาม และได้ใจว่าไม่มีใครทำอะไรได้ ขณะที่ชุมชนมักจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแม้จะรู้เห็น เพราะมองเป็นเรื่องครอบครัว นอกจากนี้ยังมีประเด็นการระบายความรุ้สึกผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งอาจไปเพิ่มความโกรธเคือง กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงแก่คู่กรณีขึ้นได แม้จะช่วยการระบายความรู้สึกก็ตาม