แผ่นสังกะสีและเศษไม้จำนวนมากถูกนำมากองสุมกันไว้ก่อนที่จะนำไม้ง่ามมาค้ำเพื่อที่จะเป็นช่องให้ นายสมชาย กรพิทักษ์ วัย 61 ปี และนางสำราญ พูลเกษม อายุ 62 ปีสองลุงป้าอาศัยอยู่นานกว่า 7 ปีแล้ว ซึ่งเวลาฝนตก และลมแรง ก็ไม่สามารถอาศัยได้ เนื่องจากหลังคาสังกะสีที่มีอยู่พังเกือบทั้งหมด ประกอบกับไม้ที่สร้างเป็นตัวบ้านมีสภาพที่ผุพัง และล้มเอียง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะพังลงมาตลอดเวลา
โดยชาวบ้านที่ผ่านไปเห็นทนกับสภาพที่เห็นไม่ได้จึงร้องผ่านสื่อมวลชนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้พังลงมาเกือบทั้งหลังแล้ว มีเพียงช่องที่สามารถให้ทั้งสองอาศัยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งพื้นที่นี้เป็นของ นายสมศักดิ์ ชื่นนิยม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าโมก ที่ให้ทั้ง 2 คนอยู่อาศัยฟรีมาหลายสิบปีแล้ว
นางสำราญ เปิดเผยว่า ตนเองกับสามีอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาตั้งแต่พ่อแม่ยังอยู่ แต่มาช่วงหลังบ้านพังลงเรื่อยๆจนต้องเอาเศษสังกะสีและเศษไม่มากกองไว้ โดยใช้ไม้ง่ามค้ำไว้ไม่ให้มันพังลง โดยตัวเองก็ป่วยเป็นเนื้องอกที่จมูกทำให้ป่วยอิดๆออดๆอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ทั้งสองคนก็มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงชีพ แต่ไม่มีปัญญาที่จะซ่อมบ้านหลังนี้ ที่ผ่านมามีหน่วยงานราชการมาถ่ายรูปสภาพบ้านหลายครั้ง แต่ก็มาบอกว่าไม่มีงบในการซ่อมแซม ตนกับสามีก็ต้องอยู่เพราะก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
ขณะที่ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างรู้สึกสงสารครอบครัวของนางสำราญ เนื่องจากพบว่า สภาพของบ้านมีความสุ่มเสี่ยงที่จะพังทลายลงตลอดเวลา ยิ่งช่วงเวลานี้มีลมพัดรุนแรงอาจจะทำให้บ้านพังลงทับทั้งสองคนเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญช่วยเหลือ ในการซ่อมแซมบ้านหลังดังกล่าวให้สามารถอยู่อาศัยได้