เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในโลกโซเชียลเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somsak Amthong ได้อัพคลิปวีดีโอผู้กระทำผิดกฏจราจรบริเวณจุดกลับรถในตัวเมือง จ.ลพบุรี ก่อนถูกคนขับรถยนต์คันหนึ่งที่ละเมิดกฎจราจรเข้ามาหาเรื่อง
ทราบภายหลังว่าเจ้าของคลิปเป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องดัง ได้ถูกมอบหมายให้ลงพื้นที่ไปถ่ายวิดีโอ บริเวณจุดกลับรถในตัวเมือง จ.ลพบุรี ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เอาแบริเออร์มาตั้งไว้ไม่ให้กลับรถ แต่ยังมีผู้ฝืนกลับรถมากมายโดยในคลิปเผยให้เห็นว่ารถยนต์คันหนึ่งทำผิดกฎด้วยการกลับรถ เมื่อผู้ขับรถเห็นว่าถูกถ่ายคลิปไว้ จึงจอดรถและปรี่เข้ามาหาเจ้าของคลิป
โดยเจ้าของคลิปได้ระบุว่า “ลพบุรีเกิดเหตุวัยรุ่นหัวร้อนใหญ่คับเมืองขับรถยนต์กลับรถในที่ห้ามกลับรถทำผิดกฏหมายจราจรสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองยังไม่พอขนาดตำรวจจราจรมาปิดกั้นก็ยังฝ่าฝืน นักข่าวลงพื้นที่ถ่ายภาพข่าวหลังจากที่มีผู้ร้องเรียนทำให้ชายชุดดำที่ขับรถเก๋งฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ-6835 ครราชสีมา ไม่พอใจจอดรถเดินขึั้นสะพานลอยจะทำร้ายนักข่าวและแย่งโทรศัพท์แถมผลักอกนักข่าวช่อง7เท่านั้นยังไม่พอก่อนขับรถหนียังถ่ายภาพรถและข่มขู่ทำให้เด็กชาย ป 6 เด็กหญิง ป 4 รวม 3 คน อยู่บนรถตกใจกลัว หลังเกิดเหตุนำหลักฐานคลิปวีดีโอหลังถูกชายชุดดำข่มขู่จะแย่งโทรศัพท์มือถือและผลักอกจะทำร้ายร่างกาย เข้าพบกับร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากการกระทำของชายชุดดำดังกล่าวผมและครอบครัวเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2561 เวลา 14 นาฬิกา บนสะพานลอยหน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 1 อำเภอเมืองลพบุรี หลังจากเกิดได้เข้าแจ้งความกับหนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว”
คลิป 1
คลิป 2
ล่าสุด ชายชุดดำที่ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายบัญญัติ บุตรเนตร์ อายุ 25 ปี พร้อมแฟนสาว เจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ-6835 นครราชสีมา ได้เข้าพบกับพันตำรวจเอกศักดิ์ชัย เกษโกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองลพบุรี และ ร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เจ้าของคดี โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งและเป็นชายชุดดำที่เป็นคนขับรถคันดังกล่าวและเป็นคนที่ก่อเหตุในวันดังกล่าวบนสะพานลอย หน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา1
โดยหลังจากที่แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบ 2 ข้อหา คือ ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อ 1 มาตรา 43 (3)ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร มาตรา 53 (2) ข้อ 2 กลับรถในที่คับขันปรับตามมาตรา 157
ข้อหาที่ 2 ทำร้ายร่างกาย มีความผิดตามประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายหรือจิตใจระวางโทษจำคุกไม่เกิด 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็นระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
สั่งลงโทษปรับในข้อหาทั้ง 2 ข้อหา เป็นเงิน 11,000 บาท แต่ทางนายบัญญัติ แจ้งว่าตนเองมีเงินติดตัวมาเพียง 2,000 บาท จึงขอความกรุณาทางพนักงานสอบสวนและทางผู้สื่อข่าว ลดค่าปรับทั้ง 2 ข้อหา ในวงเงิน 2,000 บาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวน และผู้สื่อข่าวเห็นว่านายบัญญัติ ได้สำนึกผิดและกล่าวขอโทษจึงไม่ติดใจและยินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทตามที่ร้องขอซึ่งไม่ขัดกับข้อกฎหมาย
ขอบคุณ : Somsak Amthong