“อนุทิน” เปิดใจ “ทุบประเด็น” ลั่นเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง ปชช. พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากประเทศสามัคคี ถ่อมตัวไม่ตั้งเป้ายอด ส.ส. ลั่นขอส่งผู้สมัครเขตมั่นใจพร้อมชนะ จี้ทุกฝ่ายยอมรับผลเลือกตั้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “ทุบประเด็น” ทางสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวีช่อง 20 ว่า เมื่อตนเข้ามาแล้วจากการถูกเว้นวรรคทางการเมือง จึงขอเดินหน้าต่อไปหลังจากเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการคุยเรื่องการร่วมงานกันของพรรคการเมือง ถึงแม้จะแต่มีอดีตสมาชิกพรรคภูมิใจไทยไปอยู่กับพลังประชารัฐ 2-3 คน แต่ยืนยันคนเหล่านี้ไม่ได้ผูกพันกัน จริง ๆ ไม่มีการดูดใครจากภูมิใจไทยทุกคนยังอยู่ครบ ส่วนภูมิใจไทยอยู่ฝ่ายประชาชนและรักประชาธิปไตย โดยมีสโลแกน “ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน” เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ไม่ได้มาบอกทำการเมืองขั้วไหน แต่หน้าที่แรกตนจะพาผู้สมัครเข้าสภาให้มากที่สุด เพราะตำแหน่ง ส.ส.เป็นหน้าที่มีคุณค่า ส่วนอะไรนอกเหนือจากนั้นเป็นเรื่องอนาคต แต่ถ้าเลือกภูมิใจไทยมามากก็ไม่ต้องจับมือกับใคร และพร้อมเป็นนายกฯ
“เรายึดหลักประชาธิปไตยก็ต้องยึดไปจนสุด ผมไม่อยากตกนรก อยากทำงานให้บ้านเมือง ผมรู้จักทุกคนไม่ใช่แค่พรรคใดพรรคหนึ่ง หัวหน้าพรรคการเมืองปัจจุบันรู้จักกันหมด ทั้งหัวหน้าพลังประชารัฐ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือคุณชวน หลีกภัย ส่วนคุณทักษิณยังเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเคยเป็นผู้บังคับบัญชา สมัยก่อนอยู่บริษัทท่านทำตามคำสั่ง แต่วันนี้เป็นตัวเราเองในบบริษัทเราเอง”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ด้านการส่งผู้สมัคร ส.ส.ขณะนี้ภูมิใจไทยจะส่งทุกจังหวัด แต่จะส่งครบ 350 เขตหรือไม่ยังต้องรอพิจารณา แต่ขณะนี้แน่นอนว่าประมาณ 280-290 เขต เพราะไม่อยากแค่ส่งไปเพื่อเก็บคะแนน แต่จะส่งคนเก่ง ๆ เข้าไป ต้องมีศักดิ์ศรี สง่างาม เพราะนักชกที่จะส่งต้องมีชื่อชั้นระดับหนึ่ง โดยมีแกนนำพรรคไปรับผิดชอบแต่ละภูมิภาค แต่ละกลุ่มจังหวัด แต่ละพื้นที่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 เอาแต้มไว้ก่อน ส่วนการประเมิน ส.ส.นั้นยังไม่ขอประเมิน โดยคนที่ส่งสมัครเลือกตั้งต้องมั่นใจว่าต้องชนะหรือมีลุ้น หรือได้มาที่ 2 เพื่อเอาคะแนน โดยเมื่อปี 2554 ได้มา 34 ที่นั่ง แต่เชื่อว่าในครั้งนี้ถ้าตนทำอะไรดีที่สุดแล้วก็พร้อมรับได้ทุกผลลัพธ์ที่ออกมา
“คืนวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ.ก็รู้ผลเลือกตั้งแล้ว เวลาจะฟอร์มรัฐบาลตั้งแต่อดีตนั้น ที่บอกจะจับมือกันผมก็เคยเป็นฝ่ายค้านกับพรรคชาติไทยพัฒนามาแล้ว ผมชื่อหนูแต่คนเรียกว่าหมู เรียกว่าอะไรก็ได้ คนไม่ตีกัน บ้านเมืองอยู่ได้ แก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน หลักของผมทำแล้วประเทศได้ประโยชน์ประชาชนได้ประโยชน์ เศรษฐกิจดีหรือไม่ ความสามัคคีเกิดขึ้นในชาติหรือไม่ ผมเอาหมด เป็นฝ่ายค้านก็ยอม แต่ตอนนี้ก็มีเป้าในใจแล้ว เพราะต้องคิดบวกไว้ก่อน”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนคิดง่าย ๆ อย่าคิดซับซ้อนขณะนี้การจับจ่ายใช้สอยของรัฐต้องใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจทุกภาคส่วน และต้องใช้งบประมาณในประเทศให้มากที่สุด โดยใช้ของผลิตในไทยไม่ต้องนำมาจากต่างประเทศ เพื่อให้คนระดับรากหญ้าได้รับการดูแล โดยทุกปีเวลามีงบประมาณไปพัฒนาประเทศหลายด้าน จะซื้อของต่างประเทศให้น้อยลงได้หรือไม่เพราะทุกอย่างเป็นสินค้าในประเทศไทย ตนเคยบริหารองค์กรไม่เคยมีหนี้สินจากยอดขายเป็นหมื่นล้าน ทุกอย่างต้องค่อยปรับวิธีคิด ถ้าเราทำให้ 1.0 นิ่งไม่ได้ คนกลุ่มนี้ยังไม่รู้จะมีเงินมาจุนเจือครอบครัวหรือไม่ ขณะที่ 5.0 สะดวกสบาย ดังนั้นผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.ต้องมาแก้ปัญหาคนหมู่มากก่อน
“ประเทศหลังการเลือกตั้ง ถ้าทุกคนยอมรับผลการเลือกตั้งโดยดุษฎี เพราะครั้งนี้ไม่มีใครได้เปรียบกรใช้อำนาจ โซเชียลเต็มไปหมด คนคอยรักษาผลประโยชน์ตัวเองเต็มไปหมด ขอให้ผู้มีความรับผิดชอบต้องมีความยุติธรรม ไม่กลั่นแกล้ง ไม่เอื้อความได้เปรียบให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าทำได้ ทุกคนก็ยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่ถ้าส.ส. 500 คนมาโดยฉันทามติของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศตัวจริง ก็อยากจะเห็นคนที่จะฝืนเป็นบุญตาสักครั้ง วันนี้นายกฯ ประยุทธ์มากวาดบ้านให้เรียบร้อย ทกคนเท่ากันหมด ยืนแผงเดียวเท่ากันหมด ไม่มีใครอยู่ในรัฐบาลก็มาสู้ ส่วนพรรคใหม่ 4 เดือนเพิ่งตั้งไม่เป็นไรก็มาสู้กัน ถ้าไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งก็พาลแล้ว”นายอนุทิน กล่าว