การแพร่ระบาดของเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ในเวลานี้ หลายฝ่ายมีการออกมาตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมหน่วยงานด้านสาธารณสุขของไทยถึงไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ กระทั่งมีการเปิดโปงว่า มีการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง และการนำเอาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่เสื่อมสภาพมาแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อนำไปฉีดให้กับสุนัข ล่าสุด วันนี้ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปที่กรมปศุสัตว์เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมีข้อมูลว่า มีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โรคพิษสุนัขบ้าระบาดอยู่ในเวลานี้
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารที่ระบุว่าเป็นข้อมูลการทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า เข้าสอบถามข้อเท็จจริงกับกรมปศุสัตว์ ทั้งประเด็นเรื่องการจัดซื้อจัดหาวัคซีน ตั้งแต่ในปี 2559 ถึงปัจจุบัน มีทั้งหมดกี่บริษัท มีงบประมาณในการซื้อ จำนวนเท่าไหร่ในแต่ละปี และหลังจากที่ประมูลได้แล้ว มีการส่งมอบผลิตภัณฑ์อย่างไร และทำไมในปี 2559 จึงมีการส่งมอบ ผลิตภัณฑ์วัคซีน ที่ไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากพบข้อมูลว่า มีวัคซีนต้องห้ามซึ่งในปี 2559 ตรวจสอบพบว่าบริษัทหนึ่งในห้า นำเข้าวัคซีนอันตราย และ อย.มีการทำลายทิ้งไปแล้ว แต่ปรากฎว่าพบวัคซีนต้องห้ามตัวนี้มาแจกชาวบ้านในเทศบาลแห่งหนึ่งที่ปทุมธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเกิดข้อสงสัยว่า หากบอกว่าทำลายหมดแล้วแต่ทำไมถึงมีวัคซีนตัวนี้มาแจกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านและอยากให้ อย.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วย ว่านำเข้ามาได้อย่างไร เนื่องจากเป็นยาที่ต้องนำเข้าจากสเปน
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะยังพบข้อมูลด้วยว่า ในปี 2560 หนึ่งในห้าบริษัทที่ประมูลได้ ไม่มีวัคซีนมาส่งมอบให้กรมปศุสัตว์ ทำให้เกิดความเสียหายและทำให้เกิดโรคระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าจนถึงปัจจุบัน
นายอัจฉริยะ ยังบอกด้วยว่า หากได้เอกสารข้อมูลบริษัทที่ประมูลวัคซีนจากปศุสัตว์ในวันนี้ ก็จะได้นำมาตรวจสอบเทียบเคียงกับเอกสารที่มีอยู่ในมือซึ่งมั่นใจว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง
ด้านนายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า กลการจัดซื้อจัดจ้างได้ดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางกรมปศุสัตว์เป็นผู้ซื้อ เป็นผู้จัดหาวัคซีน ไม่ได้เป็นผู้ขาย หรือส่งให้ทางท้องถิ่น และมีขั้นตอนตรวจสอบหลังได้รับวัคซีนไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว