ปล่อยโฮกลางโรงพัก! ‘น้องหญิง’ แดนธรรมสุขาววะดี อ้างสื่อสารกับพระพุทธเจ้า 5 องค์ ถูกตร.บุกจับ หลังมีคดีเก่าติดตัว เจ้าตัวลั่น! ทำเต็มที่แล้ว
วันนี้ (18 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แดนธรรมสุขาววะดี บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่มีน้องหญิงและอาจารย์ ที่ อ้างดึงคลื่นพลังบุญจากพระพุทธเจ้า 5 องค์ มารักษาโรค ให้กับประชาชนที่สนใจ โดยบรรยากาศวันนี้ยังมีประชาชนที่เคยรับรักษาแล้วหายเดินทางหลายคน หนึ่งในนั้นคือนายเดือน อายุ 64 ปี บ้านอยู่อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย บอกว่า ตนเองเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบเป็นมาแล้ว 4 ปี เดินไม่ได้นอนติดเตียง พอผ่าตัดพอเดินได้ก็ต้องเดิน 4 ขา พอมาหาน้องหญิงและอาจารย์ปรากฏว่า อาการดีขึ้น ไม่ต้องเดิน 4 ขาแล้วเดินเองได้ จากเดินไม่ได้ต้องใช้ 4 ขาตอนนี้เดินได้แล้วยังขับรถยนต์ได้ด้วย พอหายส่วนตัวก็เชื่อและศรัทธาอย่างมาก ก็เลยแวะมาที่แดนธรรมแห่งนี้ประจำ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปพบกับ น้องหญิงและอาจารย์ ที่เจดีย์ พบว่ากำลังทำพิธีให้กับประชาชนที่ศรัทธา โดยน้องหญิงและอาจารย์ดูท่าไม่สบายใจบอกว่า นักข่าวมาเมื่อวานข่าวออกไปบิดเบือน แนวทางที่ถูกต้องคือต้องมีเวลา ความจริงก็คือคนที่หายเขาตั้งใจมาและมีเวลามาทำ ต้องมีสมาธิ มารีบๆ ไม่หายแน่นอน แต่จะมาแล้วจะใช้เวลาสั้นๆ ทำไม่ได้ มันมีขั้นตอนของมัน คนที่ไม่หายกลับเอาไปลง ส่วนคนที่หายนักข่าวกลับไม่เอาไปตรง ที่ตรงนี้เราอยากจะบอกว่าเป็นพลังธรรมชาติ พลังบุญจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่จะเยียวยาและรักษาคน อย่างสตีฟ จ็อบ หากเขามาหาน้องหญิงและอาจารย์ เขายังไม่ตาย จังหวะนั้นเองคนที่ศรัทธาก็ของขึ้น ร้องไห้โฮออกมา หากสตีฟจ็อบมาหาจะไม่ตาย เขามีญาณเสียดายสตีฟ จ๊อปหามาที่นี่ยังคงไม่ตาย
ขณะที่น้องหญิงและอาจารย์กำลังพูดคุยกับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ปรากฎว่า เวลา 13.00 น.ที่ เจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภูธร จ.อุดรธานีและตร.ชุดสืบสวนสภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้บุกเข้าไปที่บริเวณเจดีย์แดนธรรรมสุขาววะดี เมื่อเจ้าหน้าที่ตร.เข้าไปถึง ทั้งน้องหญิงและอาจารย์ก็ยังงง พอตร.อ่านหมายศาลอาญามีนบุรี พร้อมแจ้งข้อหา น้องหญิง อาจารย์ชายและลูกศิษย์พากันงงๆ
โดยขณะที่ตร.ได้อ่านหมายศาลอาญามีนบุรี เพื่อจับกุม น.ส.โสรวีร์ หรือ น้องหญิง ที่อยู่นั้น น้องหญิงก็ยังมีอาการงงอีกถามตร.ว่า หมายจับเรื่องอะไร ตร.ก็ได้อ่านหมายศาลลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 จากสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นผู้การค้า” และเชิญน้องหญิงไปยังสภ.กลางใหญ่เพื่อบันทึกจับกุม โดยน้องหญิงตอนแรกงงๆ เกี่ยวกับหมายจับ แต่ภายหลังก็นึกขึ้นได้ว่า น่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับสมัยตนเองทำธุรกิจเมื่อปี 61 โดยน้องหญิงบอกว่าสมัยนั้นทำธุรกิจ เป็น MD เป็นของบริษัทนำเข้า จอ LED จากประเทศญี่ปุ่น จากนั้นน้องหญิงก็ขอตัวไปแต่งตัวและเอาเอกสาร ตร.ได้นำตัวน้องหญิงมาบันทึกจับกุมที่สภ.กลางใหญ่ เพื่อเตรียมส่งตัวไปยังสน.โคกครามเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พอตำรวจนำตัว น้องหญิง มาบันทึกจับกุมที่สภ.กลางใหญ่ ปรากฏว่า น้องหญิงมีอาการของขึ้นร้องไห้ออกมา จากนั้นอาจารย์และพี่โดมต้องเข้าไปจดบันทึก อ้างเป็นข้อความจากเบื้องบน พี่โดม บอกว่า ช่วงที่น้องหญิงให้ปากคำนั้นมีข้อความจากพระเจ้าตาก ผ่านร่างน้องหญิงมาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น โดยท่านบอกว่าไม่ต้องตกใจเรื่องนี้ท่านเป็นผู้กำหนดน้องหญิงมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว ทุกคนจะได้รู้จักน้องหญิงมาเพื่อช่วยเหลือคนทั้งโลก ส่วนตัวก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าน้องหญิงจะมีคดีติดตัวหมายจับมา ตอนนี้ยังงงๆ เท่าที่รู้ก่อนหน้านี้น้องหญิงเป็นตัวแทน บริษัท ฮากะซิ (ประเทศไทย) จำกัด)
ส่วน อาจารย์ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตัวไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยว่าน้องหญิงนั้นจะมีคดีติดตัว ตอนนี้ยังรู้สึกว่ายังงงๆกับ การที่ตำรวจเดินทางมาจับตัวน้องหญิง ตนกับน้องหญิงเท่าที่รู้ก็ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี สำหรับก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมารู้จักน้องหญิงนั้น น้องหญิงก็เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจขายจอ LED ของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ตนก็ไม่ได้ถามต่อเพราะเรื่องทางโลกนั้นอาจารย์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถามว่าตอนนี้รู้สึกกังวลไหมตอนนี้ในใจรู้สึกว่างเปล่า ทั้งนี้หากน้องหญิงต้องถูกดำเนินคดี ส่วนตัวแล้วอาจารย์ยังไม่มีเงินเพื่อประกันตัว ยอมรับเลยตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะดำเนินการช่วยเหลือน้องหญิงอย่างไรก็ไม่รู้
ลูกศิษย์ของน้องหญิงและอาจารย์ บอกว่า ไม่เชื่อว่าอาจารย์จะทำความผิด เพราะอาจารย์ไม่ใช่คนแบบนั้นอาจารย์เป็นคนเมตตาช่วยเหลือคน เงินบาทหนึ่งท่านก็ไม่เคยเรียกร้องกับคนที่มารักษา ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีคนมากลั่นแกล้งท่าน ซึ่งหากใครอยากลองของลองดีกับเบื้องบนก็ลองไป เดี๋ยวจะได้รับผลกรรม
ก่อนตร.คุมตัวส่งไป สน.โคกคราม น.ส.โสรวีร์ ทองอินทร์ หรือน้องหญิง อายุ 38 ปี บอกเพิ่มเติมกับนักข่าวอีกว่า สำหรับคดีความตามหมายจับนั้นเป็นคดีความสมัยน้องหญิงทำงานอยู่ทางโลก เกี่ยวข้องกับการโฆษณา ความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้วิตกกังวลอะไรเพราะหลังจากที่เราไปทางโลกไม่ได้มีเพราะมีภารกิจทางธรรมที่ยิ่งใหญ่ ชาตินี้น้องหญิงเป็นชาติสุดท้ายแล้ว ปัญหาทุกอย่างก็ค่อยแก้ไขไปทุกอย่างมีขั้นมีตอน ตอนนี้เบื้องบนรู้แล้วโดยเบื้องบนบอกว่าก็เป็นไปตามนั้น
