ชาวบ้านเกาะแรดอึ้ง! หลังจากพี่สาวพ่อเลี้ยงของเหยื่อออกมาให้ข่าวว่าเคยเกิดเหตุการณ์รุมโทรมหญิงเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะที่ชายในหมู่บ้านออกมาโต้ มีเรื่องเกิดขึ้นจริงแต่ไม่ใช่รุมโทรม เป็นแค่การลักลอบได้เสียกันก่อนจะแต่งงานของหญิงชายคู่หนึ่ง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและ พฐ. เก็บหลักฐาน DNA จากผู้ต้องหา 3 รายพร้อมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพังงา พร้อมนำสำนวนการสอบสวน ส่งอัยการจังหวัดพังงาภายในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์คดีรุมโทรมเด็กหญิงอายุ 15 ปี โดยคนในหมู่บ้านกว่า 40 คน ในหมู่บ้านเกาะแรด อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จนเป็นเหตุให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 8 คนอยู่ในขณะนี้ จนสร้างความเสียใจให้กับชาวบ้านและญาติผู้หาที่ต้องหาเงินประกันแต่ติดที่ทุกคนมีฐานะยากจนไม่มีเงินทองมาต่อสู้คดีและประกันตัว จนทนายความอาสาจังหวัดพังงาต้องลงมาช่วยเหลือด้านคดีให้ฟรี
ล่าสุดนางสุภานีย์ ชลเขต พี่สาวของพ่อเลี้ยงเด็กหญิงที่ถูกรุมโทรมออกมาให้ข้อมูลเบื้องลึกกับทีวีช่องหนึ่งว่า เหตุการณ์รุมโทรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของหมู่บ้านเกาะแรด แต่เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน ตนยังจำได้ คือ มีการเลี้ยงฉลองงานแต่งงานคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง ตนเองก็ไปร่วมงาน โดยตนไปกับเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง แต่พ่อมาตามให้ตนกลับบ้าน ก่อนปล่อยให้เพื่อนอยู่ในงาน พอตอนเช้ามาทราบข่าวอีกทีว่าเพื่อนของตนนั้นถูกวัยรุ่นในหมู่บ้าน 5-6 คน รุมโทรมเมื่อคืน ซึ่งขณะที่ถูกรุมโทรมมีชาวไปบ้านไปพบพอดี ตนรู้สึกตกใจมาก แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ถูกปิดเป็นความลับ ไม่มีใครพูดถึงเนื่องจากว่าเกรงว่าจะทำให้หมู่บ้านเสื่อมเสียชื่อเสียง
นางสุภานีย์ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่กล้าออกมาเปิดเผยในครั้งนี้เนื่องจากว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเกาะแรด มากว่า 40 ปีแล้ว อยากให้ชาวบ้านเกาะแรดออกมายอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นซะที เพื่อไม่ให้เหตุการณ์มันบานปลายไปมากกว่านี้ ตนไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับ 30 กว่าปีที่แล้วอีก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ครอบครัวของตนเองไม่อยากมีปัญหากับคนในหมู่บ้าน แม้ว่าครั้งหนึ่งตัวลูกสาวตนเองเมื่อตอนอายุ 18 ปีก็เคยถูกวัยรุ่นในหมู่บ้านมากระทำอนาจาร โดยลูกสาวตนขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้าบ้านตอนหัวค่ำ แต่ถูกวัยรุ่นดักขยำนมระหว่างเข้าบ้าน แต่ตนเองและครอบครัวก็ไม่ได้ไปแจ้งความอะไร เนื่องจากลูกสาวจำหน้าไม่ได้ แต่จำได้ว่าเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน ปัจจุบันลูกสาวตนแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว
ด้าน นาย น. (นามสมมุติ) ชาวบ้านเกาะแรดออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและชาวบ้านเกาะแรดรู้สึกตกใจมาก และขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ครอบครัวของหญิงที่ถูกรุมโทรมทำงานที่บังกะโลในหมู่บ้านที่เดียวกันกับตน แต่ปัจจุบันครอบครัวนี้ได้ย้ายออกจากหมู่บ้านไปนานแล้ว
นาย น.ยังเล่าอีกว่า ตนจำได้ว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง แต่ไม่ใช่เป็นการรุมโทรมแต่อย่างใด เนื่องจากว่า หญิงคนดังกล่าวชอบพอมีแฟนคบหาดูใจกัน และได้แอบมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งถึงขั้นได้เสีย จนพ่อแม่ของฝ่ายหญิงทราบเรื่องจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่โรงพัก แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการตกลงกันระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง โดยฝ่ายชายยินดีตกลงรับผิดชอบจัดงานแต่งงานกันถูกต้องตามประเพณี ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงตามที่นางสุภานีย์ออกให้ข่าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านเกาะแรดเสียหายไปมากกว่าเดิมเข้าไปอีก ตอนนี้ชาวบ้านเกาะแรดรู้สึกเสียขวัญและกำลังใจมาก จนไม่กล้าให้ข่าวใดๆ กับสื่อหรือบุคคลใดที่แฝงตัวเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ที่สถานีตำรวจ สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพังงา (สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ) ได้เข้าเก็บหลักฐาน DNA จากผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย และจะนำตัว ทั้ง 3 คน ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพังงา พร้อมนำสำนวนการสอบสวน ส่งอัยการจังหวัดพังงาภายในวันนี้