เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ รวมถึงฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 ตามคำสั่งของศาลปกครอง พื้นที่กว่า 500 ไร่ และหมูกว่า 100 ตัว ถูกทิ้งไว้
วันนี้ (13 ธันวาคม 2560) เวลาประมาณ 11.00 น. นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายสุเทพ พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้สายที่ 1 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.6 (แม่ทรายคำ) สนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.สมศักดิ์ เตชะสืบ รอง ผอ.รมน.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่ ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน ได้ปฏิบัติการเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย (แม่เมาะแปลง 2) จำนวน 6 จุด รวมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 585 ไร่ ในเขตพื้นที่หมู่บ้านแพะกู่คำ และบ้านศรีดอนชัย ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง
การตรวจยึดครั้งนี้ เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองเชียงใหม่ โดยได้สั่งให้กรมป่าไม้ดำเนินการยึดคืนผืนป่าบริเวณป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย (ป่าแม่เมาะแปลง 2) ในส่วนที่ บริษัท วนชัยอุตสาหกรรม จำกัด ยึดถือครอบครองโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยจุดแรกอยู่ในพื้นที่ของไร่ณอเณร ตั้งอยู่ติดถนนสายวัดพระเจ้าทันใจ-บ้านจำบอน เขตบ้านแพะกู่คำ ต.ต้นธงชัย ซึ่งได้บุกรุกพื้นที่ป่าจำนวน 267 กว่าไร่ พบร่องรอยการขุดเอาหน้าดินขุดดินลูกรังเป็นหลุมบ่อลึกจำนวนมากหลายบ่อ จากการตรวจสอบยังพบว่าในไร่ยังมีพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ นส.3 ครอบครองอยู่ประมาณ 70 กว่าไร่
ในส่วนของจุดอื่นๆ ที่บุกรุกพบว่า ยังมีพื้นที่ตั้งแต่ 14 ไร่ ไปจนถึง 167 ไร่ ส่วนมากได้ทำการปลูกเป็นสวนยูคาลิปตัส และปลูกสร้างบ้านเอาไว้ อีกทั้งมีการทำรั้วล้อมรอบ ซึ่งจุดสุดท้ายยังพบว่าเป็นโรงเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดไม่พบว่ามีใครเฝ้าอยู่ จึงเชื่อว่าเป็นการเข้าครอบครองบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อจับจองครอบครอง ทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าดังกล่าว จึงได้ดำเนินการตรวจยึด ตามคำสั่งศาลปกครอง
ทั้งนี้ ที่ฟาร์มหมูในพื้นที่บ้านดอนชัย หมู่ที่ 5 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ยังพบว่า มีหมูอยู่ในฟาร์มจำนวนกว่า 100 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ที่บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถขนหมูหลบหนีออกไปได้ทัน จึงต้องทิ้งไว้ ซึ่งถ้าไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของจะตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย จะติดตามตัวผู้ที่บุกรุก รวมถึงเจ้าของผู้เข้าครอบครอง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป