หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ว่าถูกนายภูริวัฒน์ เทียนไชย อายุ 27 ปี พนักงานนวดย่านสุขุมวิท ทำอนาจารและข่มขืน แต่เรื่องนี้ยังมีข้อสงสัยอย่างมาก ว่าเป็นการสมยอมหรือข่มขืน เนื่องจากไม่พบความผิดปกติของผู้เสียหาย แต่อย่างใด ทำให้วันนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.ลงตรวจสอบร้านนวดแห่งนี้
นี่คือภาพภายในร้านโทนี่ นวดแผนไทย ตั้งอยู่เลขที่ 22 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ที่ดูจะออกมืดๆ ด้วยแสงไฟที่ใช้ต้องการให้แสงที่สลัวๆ แม้ภายในร้านจะมีแสงไฟเพียงพอที่จะให้ความสว่างไสว แต่ลักษณะของร้านนวดแผนไทยส่วนใหญ่จะเปิดไฟเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ต้องการพักผ่อนหรือมานอนหลับในระหว่างนวด (เป็นสไตล์ทั่วไปของร้านนวดแผนไทย)
โดยวันนี้ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. เดินทางมาตรวจร้านนวดแห่งนี้ เพราะประกอบสำนวนคดี หลังถูกสาวไต้หวันระบุว่า เธอถูกข่มขืนบริเวณชั้น 2 ของร้านนี้ โดยพลตำรวจเอกวิระชัย ระบุว่า เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ต้องดูว่ามูลเหตุที่จูงใจเป็นอย่างไร รวมทั้งวัตถุพยาน และสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยจากการเข้าตรวจสอบสถานบริการ พบว่าอาคารไม้ 3 ชั้น พื้นเป็นไม้กระดาน ซึ่งเป็นห้องรวม มีเพียงม่านกั้นระหว่างเบาะนอน และหากมีการกระทำชำเราอย่างที่กล่าวอ้างจริง พื้นที่ชั้นล่างจะได้ยินเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือ
ส่วนผู้ต้องหาที่ให้การยอมรับว่า มีเพศสัมพันธ์กันจริง แต่เป็นไปด้วยความสมัครใจ เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน รวมถึงพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจร่างกายของผู้เสียหาย โดยจะต้องนำความเห็นเหล่านั้นมาประกอบสำนวน เพื่อมีความเห็นในทางคดี โดยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จะทำความจริงให้ปรากฏได้
ด้าน นายแพทย์ ธงชัย ระบุว่า ทางร้านมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พรบ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าของร้านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แม้ว่าจะสมยอมหรือไม่สมยอมก็ตาม เพราะสถานที่นี้ให้การบริการอยู่ ตรงนี้มีโทษปรับ 30,000 บาท ในข้อหาปล่อยปะละเลย ทำให้เกิดผิดศิลธรรมและจรรยาบรรณ และอาจจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตอีกด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ส่วนบริกรผู้ให้บริการก็ต้องมีใบอนุญาตเช่นเดียวกัน ก็จะต้องเสนอถอดถอนใบอนุญาตต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของคดี พันตำรวจโท พิษณุพล เดชศรี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจทองหล่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านที่ตำรวจขอมาแล้ว พบว่า หลังจากที่นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ผู้เสียหายที่เข้าใช้บริการนวดเสร็จแล้ว ก็ได้ลงมาชำระค่าบริการ (200บาท) ที่เคาน์เตอร์ บริเวณชั้น 1 ของร้าน ภาพในกล้องวงจรปิดไม่พบปฏิกิริยาใดๆ ที่สื่อว่า ถูกกระทำอนาจารหรือถูกข่มขืน โดยมีท่าทีตามปกติ เหมือนลูกค้าทั่วไป รวมถึงยังมีการให้ทิป (100 บาท) กับพนักงานชายคนดังกล่าวด้วย ซึ่งตำรวจจะเร่งสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง โดยเฉพาะลูกค้าที่มาใช้บริการในช่วงวันและเวลาที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากพยานที่มีส่วนใหญ่เป็นพนักงานร้านนวดเท่านั้น จึงอาจจะไม่มีเกิดความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย