จากเหตุการณ์ที่มีคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่งได้ให้การช่วยเหลือนำเด็กหญิง คนไทย อายุประมาณ 10 ปีเศษ มาส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย โดยอาการของเด็กหญิงนั้นอยู่ในสภาพที่หมดสติ ไม่รู้สึกตัว และจากการตรวจของแพทย์ยังพบว่าที่อวัยวะเพศมีรอยฉีกขาด เลือดไหลออกมา ลักษณะคล้ายกับการถูกกระทำชำเรา โดยคุณยายของ ด.ญ.รายนี้ ถึงกับหลั่งน้ำตาที่ปล่อยให้หลานมากับพ่อเลี้ยงจนมาเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งบอกว่าหลานสาวมีความบกพร่องทางด้านร่างกายด้วยอาการออทิสติกตั้งแต่เกิด ล่าสุด แม่ของเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายแทบช็อกเมื่อรู้ข่าวลูกถูกขืนใจ ขณะที่ญาติๆเผยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับครอบครัว วอนตำรวจล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
แพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ต้องดูแลอาการของ นางกนกพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี แม่ของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนที่จะมีแท็กซี่พลเมืองดีนำร่างส่ง รพ. เมื่อกลางดึกวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดย นางกนกพร ซึ่งป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ความดันและต้องฟอกไตทุกอาทิตย์นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกหญิง เมื่อทราบข่าวดังกล่าว นางกนกพร มีอาการช็อกและร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีชุดนักเรียนของน้องใบตองที่ใช้เวลาเปลี่ยนหลังจากกลับมาจากโรงเรียนและมาเฝ้านางกนกพรวางอยู่ข้างตัว โดยมี นายสนิท อายุ 69 ปี ตาของเด็กหญิงผู้เสียหายคอยเฝ้าดูอาการ
นายสนิท เปิดเผยว่า ปกติหลานสาวอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง (นายเอ็ม) นางกนกพร และ นางบุญธรรม ยาย และตนเองที่บ้าน หลังจาก นางกนกพร ล้มป่วย นายเอ็ม ไป ๆ มา ๆ ระหว่างที่บ้านกับโรงพยาบาลเรื่อย ๆ โดยหลานสาวจะอยู่กับตนที่ไปรับ-ส่งโรงเรียนทุกวัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.61) นายเอ็ม บอกกับ นางกนกพร ว่าคิดถึงลูกและขอไปรับหลานสาวจากโรงเรียนเพื่อไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ตนเองก็นึกว่าหลานสาวผู้เคราะห์ร้ายจะอยู่กับแม่ที่โรงพยาบาล พอเมื่อวานนี้ แม่ของเด็กหญิงโทร.มาถามว่าลูกสาวถึงบ้านหรือยังตนเองก็บอกว่าไม่ได้กลับมา นางกนกพร บอกว่ากลับมาตั้งแต่เช้าแล้ว ตนเองพยายามติดต่อ นายเอ็ม แต่ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่ง 2 ทุ่มทางโรงพยาบาลมหาชัย จ.สมุทรสาคร โทร.มาแจ้งว่าหลานสาวถูกทำร้ายอาการโคม่า ซึ่งก็รู้สึกงงว่าไปได้อย่างไร ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากเพราะตนเองเลี้ยงหลานสาวตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวตน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงพฤติกรรมของ นายเอ็ม ขณะที่มาเฝ้า นางกนกพร ที่โรงพยาบาลพบว่า นายเอ็ม มีพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับคนอื่น และเมื่อ นายเอ็ม มาเฝ้าไข้ทุกครั้งก็จะมีเงินของคนไข้ที่นอนอยู่ในห้องเดียวกันหายไปเป็นประจำ
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของเด็กหญิงผู้เสียหาย ปรากฏว่าปิดบ้านเงียบไม่มีใครอยู่ที่บ้าน สอบถามเพื่อนบ้านละแวกนั้นทราบว่า ยายของเด็กหญิงผู้เสียหายเดินทางไปที่โรงพยาบาลมหาชัย เพื่อไปดูอาการของหลานสาว ส่วนคนอื่น ๆ อยู่ที่ รพ.โพธิ์ทอง กันหมด โดยทั้งคู่ยังกล่าวอีกว่า ปกติ ด.ญ.วัย 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.5 เป็นเด็กฉลาด ที่ผ่านมาไม่พบเรื่องทะเลาะกันภายในครอบครัวแต่อย่างใด แต่ระยะหลัง ๆ นางกนกพร แม่ของ ด.ญ.ผู้เสียหาย ป่วยหนัก นายเอ็ม และเด็กหญิงต้องคอยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ จนเมื่อวานที่ผ่านมาได้ทราบข่าวดังกล่าว ทุกคนจึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
