นาย โจ ไบเดน วัย 78 ปีได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 สหรัฐฯอย่างเป็นทางการเมืองวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาในไทย เมื่อเวลา 11.45 น.ของคืนที่ผ่านมา(20 ม.ค.64) พิธีดังกล่าวมีขึ้นบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ราว 25,000 นาย
ขณะที่นางกลมา แฮร์ริส วัย 56 ปี ก็ร่วมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีเช่นกัน ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นรองประธานาธิบดีหญิง และเป็นชาวผิวสีเชื้อสายเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ส่วนนายไบเดนได้ทำพิธีสาบานตนในเวลาต่อมาต่อหน้านายจอห์น โรเบิร์ตส ประธานศาลสูงสุด โดยนายไบเดนถือเป็นประธานาธิบดี ที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
เปิด 5 ข้อมูลน่ารู้ ก่อน พิธีสาบานตน รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโจ ไบเดน
ผู้นำเหล่าทัพสหรัฐฯ ออกแถลง ยืนยัน โจ ไบเดน คือปธน.คนต่อไป ยืนยันปกป้องผู้นำและรัฐธรรมนูญ
แขกผู้ที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนครั้งนี้มีทั้ง อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว โดยเขาได้ออกจากทำเนียบขาว พร้อมกับนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มพิธีสาบานตน เพื่อเดินทางไปยังบ้านพักในรัฐฟลอริดา
โจ ไบเดน สร้างประวัติศาสตร์ เสนอชื่อสตรีข้ามเพศคนแรก นั่งรมช. สาธารณสุข
ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง โดยได้กล่าวว่าวันนี้เป็นวันของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะ พร้อมกับประกาศว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน และจะทำงานเพื่อชาวอเมริกันอย่างเต็มที่ให้ทั้งกับกลุ่มผู้สนับสนุน และไม่ได้สนับสนุนเขา
ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ยังได้เรียกร้องให้ชาวสหรัฐฯสามัคคี เพราะในเวลานี้สหรัฐฯกำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด19, การลุกฮือของกลุ่มหัวรุนแรงทางการเมือง และภัยก่อการร้ายในประเทศ พร้อมกับต้องฟื้นฟูประเทศในหลายๆด้าน ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนขอให้ชาวสหรัฐฯใช้ความเข้มแข็งในการฝ่าฟันปัญหาต่างๆเหล่านี้ไปให้ได้ โดยหลังกล่าวสนุทรพจน์เสร็จ ประธานาธิบดีไบเดนก็ได้ยืนนิ่งสงบไว้อาลัยให้กับชาวสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ด้วย
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตน ประธานาธิบดีไบเดนได้โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า ตนจะเข้าไปทำงานในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาวในทันทีเพื่อเดินหน้าทำงานแก้วิกฤตต่างๆที่ประเทศเผชิญอยู่ในเวลานี้
ขอบคุณภาพ Xinhua