จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมุกดาหารได้จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การห้ามออกจากเคหสถานเวลาที่กฎหมายกำหนด เคอร์ฟิว
ในช่วงดึกวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่จุดตรวจ 4 แยกไฟแดงเมืองใหม่ โดยพบ น.ส.อภิญญา ขำสุภาพ อายุ 19 ปี และ น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29ปี ขับรถ BMW สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กธ 1986 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคนขับมีอาการคล้ายคนเมาสุราโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอใจที่ตำรวจตรวจสอบ โดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 รายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น
ด้านนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้โพสต์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า “ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน #ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฏเคอร์ฟิว # ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้นครับ #กฎหมายต้องเป็นกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครครับ”
ล่าสุด ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ กรณีฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีโดนจับที่จุดตรวจขณะขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ เกินเวลา โดยศาลพิพากษา จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 1 ปี