ไม่หนี! “สุรพงษ์” นั่งวิลแชร์เข้าฟังคำพิพากษาคดี คืนพาสปอร์ตทักษิณ
“สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” อดีตรมว. ต่างประเทศ นั่งวีลแชร์เข้าฟังคำพิพากษาคดี คืนพาสปอร์ต“ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยมะเร็งระยะลุกลามและโรครุมเร้า
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ในเวลา 11.00 น. คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นจำเลยหลบหนีคำพิพากษาและหมายจับ
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง หลบผู้สื่อข่าวเข้าทางประตูด้านหลังศาลฯ โดยนั่งวิลแชร์และสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งระยะลุกลามและอยู่ระหว่างการให้เคมีบำบัด รวมทั้งยังมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน เส้นเลือดหัวใจตีบ ปลายประสาทอักเสบ ทำให้ยืนนานไม่ได้ จึงต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลซึ่งหลบหนีให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวก และเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ