โฆษก กอ.รมน. เผยปมแจ้งความเอาผิด7 พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการมีความจำเป็นเพราะหากเพิกเฉยทางเจ้าหน้าที่อาจจะได้รับผลกระทบ
พล.ต.ธนาธิปสว่างแสงโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่กอ.รมน.ภาค4 สน. แจ้งความดำเนินคดีแกนนำพรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการรวม12 คนว่าการเสวนาดังกล่าวได้มีการพูดคุยกันซึ่งตอนหนึ่งมีการพาดพิงมาตรา1 ของรัฐธรรมนูญจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างทำให้เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ภาค4 สน.ที่ทำหน้าที่ด้านกฎหมายดำเนินคดีแจ้งข้อหากับผู้ที่เข้าร่วมเสวนาในวันนั้น
ทั้งนี้สิ่งที่ดำเนินคดียืนยันว่ามีความจำเป็นในเรื่องของการปฏิบัติงานถ้ามีการเพิกเฉยหรือละเว้นทางเจ้าหน้าที่อาจจะได้รับผลกระทบผิดตามมาตรา157 ได้คิดว่าการปฏิบัติต่างๆเป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ส่วนผลการตัดสินจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาลเป็นผู้ชี้ขาดโดยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลซึ่งตนคิดว่าทุกคนคงเข้าใจตรงกันและเคารพต่อศาล
พล.ต.ธนาธิปกล่าวว่า“ความเห็นต่างของพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายและทุกกลุ่มสามารถยอมรับได้เพราะเรามีระบอบประชาธิปไตยเราไม่เคยมองพี่น้องประชาชนเป็นศัตรูกอ.รมน. ยอมรับกฎกติกาทุกอย่างเชื่อว่าทุกวันนี้ทุกคนเข้าใจกอ.รมน. มากขึ้นนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้มอบนโยบายให้ข้าราชการกอ.รมน. ทุกคนจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาสและดูแลประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน”
และกรณีที่ผู้นำพรรคฝ่ายค้านแจ้งความกลับพล.ท.พรศักดิ์พลูสวัสดิ์มทภ.4 และพล.ต.บุรินทร์ทองประไพผู้ชำนาญการสำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้าที่กองปราบปรามจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของกอ.รมน.และกอ.รมน.ภาค4 สน. หรือไม่
พล.ต.ธนาธิปกล่าวว่าคิดว่าไม่มีผลกระทบแต่อย่างใดซึ่งยอมรับว่าทุกคนต้องทำงานในหน้าที่ของแต่ละคนกอ.รมน.ภาค4 สน. ถือว่าเป็นหน่วยงานในพื้นที่ที่เห็นว่ามีการดำเนินการพาดพิงไปถึงมาตรา1 ของรัฐธรรมนูญเป็นเหตุให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องออกไปปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อดำเนินคดีดังนั้นคำตัดสินใดๆก็แล้วแต่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่จะรู้ว่าใครจะผิดหรือถูกอย่างไรเป็นอำนาจของศาลที่เป็นกระบวนการตัดสินให้ชัดเจนว่าข้อมูลนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ต้องรอฟังคำสั่งศาลต่อไปส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของกอ.รมน.ภาค4 สน. ตนคิดว่าไม่มีเฉพาะงานนี้งานเดียวเพราะการแก้ปัญหา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องทำกันต่อไป