วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาระบุว่าพร้อม ปรับ ครม. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง คนถูกปรับออกก็ไม่พอใจหรือน้อยใจเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย แต่รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ทำงานขยันขันแข็งกันทุกคน ที่สำคัญคือไม่ทุจริตคอร์รัปชันและจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ และ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยทำงานเกินเวลาราชการ สมกับที่จบจาก ม.รามคำแหง ลูกพ่อขุนฯต่างภูมิใจกันทั้งประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับหลักการที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดมาตลอด คือ อดีต ส.ส. ที่เป็น ส.ส. มามากสมัยที่สุด จะได้เป็นรัฐมนตรีแต่ขณะนี้อดีต ส.ส. 8 สมัยรุ่นเดียว กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีเหลือเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีคือ นายวิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง ปัจจุบันเป็นเลขานุการ มท.2 จึงอยากให้พรรคได้คงหลักการเดิมไว้ อย่าให้อำนาจอย่างอื่นมาเปลี่ยนแปลง และอยากให้ผู้บริหารพรรครักษากำลังทุกส่วนไว้ในภาวะที่พรรคบอบช้ำอย่างหนักในขณะนี้
นายวัชระ กล่าวอีกว่า การปรับ ครม. เป็นเอกสิทธิ์ของ นายกฯ แต่ปรับแล้วต้องดูดีกว่าเดิม คนที่ประชาชนร้องยี้หรือไม่มีผลงานควรปรับออกอย่าเกรงใจใคร และคนที่เข้าไปแทนจะต้องมีคุณภาพทำให้ประชาชนเห็นปั๊บต้องสุขภาพจิตดีขึ้นหรือยิ้มได้ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจต้องมีดีกว่า 4 กุมาร มาก ๆ เพราะขณะนี้มีหนี้เน่ามากกว่า 15 ล้านบัญชีแล้ว ถ้าหากไม่เป็นไปดังนี้ นายกฯ ก็ควรส่องกระจกดูตัวเองได้แล้ว เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของพลเอกประยุทธ์คนเดียว