ม็อบปลดแอก — นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.63 นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยได้ยกหลักคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการชุมนุม กปปส. ได้เปรียบเทียบกับม็อบประชาชนปลดเเอก ซึ่งภายในโพสต์ดังกล่าวระบุว่า
การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก นักเรียน และนักศึกษา ในวันที่ 19 กันยายน 2563 นี้ เพื่อเรียกร้อง “1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ยุบสภาภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตย” ซึ่งมีผู้กล่าวหาว่า จะเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ นั้น
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงว่า การชุมนุมทางการเมืองของประชาชนในอดีต เคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐาน คือ กรณี ในปี 2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. ได้ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินโดยมีการปิดเส้นทางจราจรบนถนนราชดำเนินจากแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการเคลื่อนขบวนปิดล้อมและบุกยึดสถานที่ราชการ สถานที่เอกชน และรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ รวมทั้งได้ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยประกาศผ่านสื่อมวลชนว่า จะยึดอำนาจการปกครองให้กลับมาเป็นของประชาชน เพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงประเทศ
นายกสมาคมทนายความ แฉ 3 ตัวการ เบื้องหลังที่แท้จริงของม็อบ ประชาชนปลดแอก
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โดย นายกิตติ อธินันท์ กรรมการฯ ได้เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การชุมนุมของนายสุเทพฯ กับพวกดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ (พ.ศ.2550) มาตรา 3 และ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยโดยมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่า การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง โดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล อันถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการเรียกร้องและแสดงพลังด้วยการสนับสนุนของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ตามคำร้องได้พัฒนาไปสู่การยุบสภาและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งแล้ว จึงยังไม่มีมูลกรณีตามคำร้องดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย นั้น
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย จึงเห็นว่า ในการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นการต่อต้านเผด็จการ เพื่อเรียกร้องให้ “หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ยุบสภา” โดยประชาชนจำนวนมาก ที่ไม่ไว้วางใจการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา และการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัตินั้น เป็นการชุมนุมและใช้สิทธิเรียกร้องตามเสรีภาพที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แล้ว ย่อมต้องได้รับความคุ้มครองทั้งตามหลักกฎหมายสากล รัฐธรรมนูญ และ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นบรรทัดฐาน กรณี กปปส. ไว้ เช่นเดียวกัน
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย จึงขอให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เคารพการใช้สิทธิเสรีภาพของ กลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ เฉกเช่นเดียวกัน กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคยเรียกร้องทางการเมืองในอดีต ทุกกลุ่มโดยเสมอภาค
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์
นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย
18 กันยายน 2563