มงคลกิตติ์ ออกโรงคัดค้านซื้อ เรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท ชี้ภาพรวมรายได้ไม่พอรายจ่าย งบฯปี 63 ขาดดุล 469,000 ล้านบาท
22 ส.ค. 63 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ถึงกรณี เรือดำน้ำ ภายหลังลงมติการเสนอของบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่าลำละ 11,250 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 22,500 ล้านบาท
โดย เต้ มงคลกิตติ์ ระบุว่า อนุมัติซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ งบปี 64 ผมไม่เห็นด้วย ควรชะลอไปก่อนจนกว่ารายได้รัฐจะปกติ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย ภาพรวมรายได้ไม่พอรายจ่าย งบประมาณปี 63 ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท ขาดดุล 469,000 ลบ แต่วิกฤตโควิด-19 ประเทศจัดเก็บรายได้ไม่ได้
รัฐบาลจึงต้องกู้แก้ขาดดุลเพิ่มอีก 214,000 ลบ เป็นงบปี 63 ขาดดุลทั่งสิ้น 683,000 ลบ ซึ่งยังไม่ถึง 30 ก.ย.63 น่าจะมากกว่านั้น ไม่รวม พรก.กู้เงิน 3 ฉบับ 1.9 ล้านล้านบาท
ดังนั้นในงบปี64 ที่ อนุกรรมาธิการอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ใน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฏรได้อนุมัติให้กองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาทแล้ว
ผมจึงมีความเห็นว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำควรชะลอไปก่อนแต่ก็ยังมีความจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพกองทัพ แต่ยังไม่เร่งด่วนเท่ากับการนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ตกงานจำนวนมาก หรือ นำไปลงทุนด้านอื่นๆที่จะกระจายรายได้สู่พี่น้องประชาชนภายในประเทศ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ ใน คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฏร