พรรคก้าวไกล เผย 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ ได้เวลากลับไปสู่รากฐานเดิม มีความสุขสมบูรณ์ สิทธิเสมอภาคกัน
24 มิ.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก “พรรคก้าวไกล – Move Forward Party” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ
กลับไปสู่รากฐานเดิม คือประชาชนทุกคนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศและมีเป้าหมายให้ประชาชนทุกคนมีความมั่นคงปลอดภัย มีความสุขสมบูรณ์ในทางเศรษฐกิจและมีสิทธิเสมอภาคกัน
24 มิถุนายน 2563 คำประกาศจากตัวแทนประชาชนดังกึกก้องที่หน้าอาคารรัฐสภา โดยมีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 สภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนรับหนังสือจาก ‘คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน’ หรือ ‘ครช.’ ที่มาทวงคืนมรดกคณะราษฎรและทวงถามความคืบหน้าการแก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เนื่องในวาระ 88 ปี 24 มิถุนายน 2475 หรือวันแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตยและเป็นวันแห่งการก่อเกิดแห่งรัฐธรรมนูญ
“หลักพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอันเป็นมรดกที่คณะราษฎรได้มอบไว้ สามารถใช้เป็นหมุดหมายในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนได้และเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ครช.ได้มายื่นข้อเรียกร้องต่อ กมธ.วิสามัญฯ ที่รัฐสภาให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญประชาชน จึงถือเอาวันที่ 24 มิถุนายนนี้เป็น โอกาสในการทวงคืนมรดกคณะราษฎรและทวงสัญญารัฐธรรมนูญประชาชนไปพร้อมกัน”
อนุสรณ์ อุณโณ ในฐานะประธาน ครช. เป็นตัวแทนกลุ่มประชาชน ในการกล่าวแถลงการณ์หน้ารัฐสภา โดยทางกลุ่มได้มีข้อเรียกร้อง ดังนี้
1 การแก้ไขหรือการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องวางอยู่บนหลักพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ทั้งในแง่ของที่มา กระบวนการ และเนื้อหา
2 สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเร่งยกร่างและเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรับฟังความเห็นของประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณา และดำเนินการให้แล้วเสร็จในสมัยการประชุมนี้เพื่อจะได้มีการจัดทำประชามติปลายปีนี้ตามที่กำหนดไว้
3 ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มีกลไก เช่น สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เป็นหลัก และให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เรื่องหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยเสียงเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
4 รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน กำหนดให้องค์กรที่ใช้อำนาจต้องมาจากหรือว่ายึดโยงกับประชาชน นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาต้องมาจากการเลือกตั้ง และต้องไม่นิรโทษกรรมให้กับคณะรัฐประหาร
ในการนี้ ชำนาญ จันทร์เรือง อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สาม กล่าวขอบคุณเเละเป็นตัวเเทนรับหนังสือจาก ครช. และยืนยันว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯได้มีการศึกษาอย่างเข้มข้น มีการพิจารณาไปแล้วเยอะมาก โดยได้เเบ่งคณะทำงานเป็น 2 ชุด ชุดเเรกเป็นคณะทำงานเกี่ยวกับการศึกษาเนื้อหาและอีกชุดเป็นคณะทำงานเพื่อรับฟังความคิดเห็น
“ข้อเสนอทั้งหมดที่ผู้แทนต่างๆยื่นมาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการรับฟัง สุดท้ายก็จะมีรายงานวิเคราะห์การศึกษาออกมา จะช้าหรือเร็ว มากหรือน้อยอย่างไร ก็ต้องมีการแก้ไขตามข้อเสนออย่างแน่นอน” ชำนาญกล่าว
สำหรับ ครช. ที่มายื่นหนังสือในครั้งนี้ ประกอบด้วยตัวแทนจาก กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) และกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.) ส่วน กมธ.วิสามัญฯที่มารับหนังสือมีตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ได้แก่ ชัยธวัช ตุลาธน – Chaithawat Tulathon เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ยังมี ส.ส. ซีกฝ่ายค้าน และอดีต ส.ส. อาทิ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส. แพร่ พรรคเพื่อไทย และบัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย