นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก ทูตนอกแถว เกี่ยวกับเหตุรัฐประหารเมียนมา ในหัวข้อร่วมรำขวาน พม่ากับไทย ใครจะพ้นวงจรอุบาทว์ก่อนกัน โดยระบุว่า
เช้าวันนี้ตื่นมาพบกับข่าวทหารพม่าทำรัฐประหาร รัฐบาลพลเรือนถูกยึดอำนาจและสมาชิกสำคัญถูกควบคุมตัว รวมทั้งนางออง ซาน ซูจี ผู้นำทางพฤตินัยของรัฐบาลด้วย
สาเหตุหลักที่มีการวิเคราะห์กันน่าจะมาจากผลการพ่ายแพ้อย่างยับเยินของพรรคทหารพม่าให้กับพรรค National League for Democracy (NLD) ของนางออง ซาน ซูจี ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งตามที่อ่านในบีบีซี ประชาชนพม่าราว 80% เลือกพรรค NLD
การที่ประชาชนพม่าเลือกพรรค NLD อย่างท่วมท้น คงสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายทหารอย่างมาก และกล่าวหาว่าพรรค NLD โกงเลือกตั้ง และที่เลือกทำรัฐประหารตอนนี้ก็เพราะรัฐสภาพม่ากำลังจะประชุมเพื่อรับรองรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้อำนาจของฝ่ายทหารลดทอนลงไปเรื่อยๆ
มีผู้วิเคราะห์ถึงอีกหนึ่งสาเหตุว่ายังมาจากเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ซึ่งมีรายงานข่าวเกี่ยวกับหลักฐานที่ระบุว่ากองทัพพม่าอยู่เบื้องหลังโดยตรง และสิ่งนี้อาจนำไปสู่กระบวนการนำตัวผู้นำกองทัพพม่าไปพิจารณาคดีที่ศาลโลกได้
ขณะนี้ทางทหารพม่าประกาศสภาวะฉุกเฉินหนึ่งปี ซึ่งนอกจากยึดอำนาจประชาชน กำจัดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าเผด็จการพม่าจะทำอะไรต่อ และจะเกิดอะไรต่อไป ก็ต้องรอดูกันต่อไป
แต่ประเด็นที่ผมว่าน่าสนใจในกรณีนี้ คือปฏิกิริยาของฝ่ายไทยเอง ทั้งของทางการและสังคมทั่วไป ในขณะที่หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศตะวันตกได้ออกมาประนามการกระทำดังกล่าวแล้ว
โดยปกติก็เป็นธรรมเนียมอยู่แล้วที่บรรดาสมาชิกอาเซียนจะไม่ยุ่งกับเรื่องการเมืองภายในของประเทศสมาชิกด้วยกันอยู่แล้ว และจนถึงตอนที่เขียนนี้ผมก็ยังไม่เห็นท่าทีทางการของไทย ดังนั้นก็เดาว่า แม้ของไทยเองก็เพิ่งปล้นอำนาจประชาชนมา ก็น่าจะคงแค่ทำเงียบๆไป คงไม่น่าไปแสดงความยินดีว่าได้เพื่อนร่วมเส้นทางอุบาทว์ด้วยกันแล้ว (และถึงแม้หมู่นี้จะทำไม่ค่อยเป็น แต่นานๆทีก็อาจรู้สึกขวยเขินกับเขาบ้างนะครับ อิอิ)
และเอาเข้าจริงก็คงไม่มีประเทศไหนที่ต่อให้เป็นเผด็จการก็เถอะ ที่จะแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการด้วย เพราะทุกคนก็รู้ว่าการทำรัฐประหารเป็นสิ่งที่ผิด ชั่วร้ายด้วยกันทั้งนั้น
และเท่าที่ผมเห็นในโซเชี่ยลมีเดียเช้านี้ ที่ออกๆมาประนามกันก็เป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่ก็ไม่เห็นชาวสลิ่ม (ขอใช้คำนี้เพราะยังไม่สามารถหาคำจำกัดความอื่นใดที่กระชับกว่านี้ได้) ที่ออกมาแสดงความยินดีกับทหารพม่า แบบดีใจกับการทำรัฐประหาร ดีใจจังมีพวกแล้วโว้ย อะไรนะครับ
ลึกๆทุกคนคงก็คงรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดและชั่วร้าย ไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่ทำรัฐประหารแล้วประเทศชาติเจริญได้จริง
ส่วนการทำรัฐประหารของพม่าจะมีผลอะไรต่อไทยและภูมิภาคนี้บ้าง เบื้องตนเท่าที่เห็น ผมก็มองว่าในภาพรวมไม่น่าจะมีอะไรดี ทั้งในแง่เศรษฐกิจการเมืองแต่อย่างใด และน่าจะส่งผลเสียมากกว่าด้วย เพราะนี่ย่อมตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ล้าหลังของภูมิภาคนี้
ส่วนถ้ายังมีใครจะดีใจว่า ไชโย ไทยมีเพื่อนร่วมวงจรอุบาทว์แล้ว ก็สุดแล้วแต่นะครับ แต่ก็ควรรู้ว่านี่ไม่ใช่การพากันเจริญ หากคือกอดคอดิ่งเหวไปด้วยกัน
นี่คือการพากันไปร่วมรำขวาน แต่ขวานที่ว่านั่นน่าจะขวานแบบของพวกมนุษย์ถ้ำนั่นแหละครับ
นักวิเคราะห์เตือน รัฐประหารเมียนมา อาจนำไปสู่วิกฤตครั้งใหญ่ เมียนมาจะไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
ทั่วโลกร่วมประณาม รัฐประหารเมียนมา พร้อมจี้กองทัพปล่อยตัว อองซานซูจี
กองทัพเมียนมา เดินหน้าล้างบางรัฐบาล อองซาน ซูจี ปลดรมต. 24 ตำแหน่ง
