จากกรณีที่ในโซเชียลได้แชร์ภาพของบรรดา แกนนำกลุ่มราษฎร ที่นั่งรับประทานอาหารบุฟเฟต์ ภายในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่ง ในย่านสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยบุฟเฟต์ดังกล่าวมีราคาต่อหัวตกคนละกว่า 2,000 บาทต่อมื้อ ซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามออกมาโจมตี เนื่องจากที่ผ่านมา กลุ่มราษฎรได้ชูประเด็นเรื่องการเรียกร้องความเท่าเทียมกันมาตลอด
ล่าสุด รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังลี้ภัยทางการเมืองในญี่ปุ่นได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊ก แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า
“ทำไมสลิ่มถึงโรแมนติไซส์การกินอาหารบุฟเฟ่ต์โรงแรม คือตั้งแต่แจกกุ้งเผาวันนั้นแล้วบอกว่าหรู มาวันนี้ แกนนำผู้ชุมนุมไปกินบุฟเฟ่ต์โรงแรม เต้าข่าวว่ามีอันจะกิน อันนี้คืองง บุฟเฟ่ต์โรงแรมแม่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาตั้งชาตินึงแล้ว
เอาจริงๆ ถ้าเป็นโรงแรมกระจอก บุฟเฟ่ต์แม่งก็กระจอกไปด้วย คือจะพูดว่า แม่งก็คืออาหารทั่วไปเพียงแต่ไปนั่งกินในโรงแรม ถึงแม้จะเป็นโรงแรมดี บุฟเฟ่ต์หัวละ 1599 บาท แล้วไง so what กินอาหารมื้อนึง 1599 บาทนี่เป็นเศรษฐีเหรอ? อันนี้คือเป็นความพยายามสร้างวาทกรรมว่าถ้าเป็นม็อบประชาธิปไตย ต้องจน ต้องเจียม ต้องเป็นไพร่เหรอ ต้องแดกแต่ข้าวแกงข้างถนนหรอ พอแดกอาหารโรงแรมกลายเป็นอำมาตย์เลยเหรอ สะเหล่อมาก จนปี 2020 แล้ว
คนต่างจังหวัด ไพร่ภูธร ก็มีปัญญากินบุฟเฟ่ต์โรงแรมกันนั้น เผลอๆ กินดีกว่านี้อีกหลายเท่าเมื่อเทียบกับคนกรุง ไอ้การสร้างวาทกรรมที่ริจิด rigid แบบนี้ เพื่อต้องการแบ่งชนชั้น เพื่อมองว่า ชนชั้นที่เรียกร้องเรื่องต่างๆ จากรัฐ ต้องเป็นชนชั้นล่างเท่านั้น อย่าเผยอข้ามชนชั้นมากินบุฟเฟ่ เพราะนั่นเท่ากับคุณกำลังหลอกผู้สนับสนุนของคุณ แต่หารู้ไหมว่า ผู้ชุมนุมแม่งก็กินบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน ในเมืองนอก อาหารบุฟเฟ่ต์แม่งคือตัวเลือกสุดท้าย ตัวเลือกที่คิดไม่ออกว่าจะกินอะไร มันไม่ใช่ร้าน speciality แม่งเป็นอาหารบ้านๆ มาก หรูตรงไหน แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า แกนนำจะแดกอะไร มิชลิน 5 ดาว จะแดก omakase หัวละหมื่น นั่นก็เงินของเค้า เค้าไม่ได้ไปแดกบนหัวมึง และไม่ได้เอาภาษีประชาชนมาแดก”
บิ๊กเซอร์ไพรส์? ปวิน โผล่เวทีคณะราษฎร อัด ประเทศไทยล้าหลัง กล้าใช้ม.112
แชร์ว่อน! แชทหลุดกองทัพ ยศนายพลสั่ง ไอโอ รีพอร์ต – โจมตีรสนิยมทางเพศ ปวิน
คชโยธี บุกสถานทูตญี่ปุ่น จี้ถอนพาสปอร์ต ปวิน ส่งตัวกลับไทย ขีดเส้นตาย 7 วัน
ขอบคุณภาพ Wittawat Ansusingh
