นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พุธ-พฤหัส ติดตามพิธาและพรรคก้าวไกลอภิปรายญัตติด่วน ตั้ง กมธ. วิสามัญตรวจสอบงบ-มาตรการสู้โควิด และตั้ง กมธ.วิสามัญ CPTPP
สืบเนื่องจากการที่พรรคก้าวไกลได้เป็นผู้ยื่นญัตติด่วนเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้ง “กรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤตการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” เนื่องจากเราเห็นว่า สภาผู้แทนราษฎรซึ่งยึดโยงกับประชาชนโดยตรง จำเป็นต้องเข้าไปติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาวิกฤตครั้งนี้ที่กระทบต่อประชาชนทุกคนในประเทศอย่างสาหัส
เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ได้ ในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ผมและพรรคก้าวไกล จะได้อภิปรายเหตุผลเหล่านี้ ให้ทางรัฐสภาและประชาชนทั้งประเทศได้ทราบโดยทั่วกัน
ซึ่งในส่วนของงบประมาณ เราเสนอให้ กมธ. ตรวจสอบการใช้งบประมาณทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิดทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะงบประมาณตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทเท่านั้น ทว่ารวมไปถึงการใช้งบประมาณก้อนอื่น เช่น งบกลางที่จะโอนมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ตาม พ.ร.บ. โอนงบประมาณปี 63 กว่า 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งสภาจะพิจารณากันต่อในสัปดาห์หน้าด้วย
นอกจากการใช้งบประมาณแล้ว พรรคก้าวไกลเสนอให้ กมธ. เข้าไปตรวจสอบมาตรการแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาลด้วย แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับการใช้งบ เพราะการออกมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลนั้นล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเราก็เห็นอยู่แล้วว่ามาตรการที่ผ่านมายังบกพร่องมากมายอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน การประกาศเคอร์ฟิว การจ่ายเงินเยียวยาประชาชน การจัดการการเดินทางกลับประเทศของคนไทย มาตรการคลายล็อก หรือการเปิด-ปิดโรงเรียน เป็นต้น
ในวันพรุ่งนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการที่รัฐบาลขอตั้ง กมธ. เพื่อถกข้อดีข้อเสีย พิจารณาศึกษาผลกระทบหากรัฐบาลจะอนุมัติลงนามในข้อตกลง CPTPP ซึ่งจะมี ส.ส. ของพรรคก้าวไกลร่วมอภิปรายในหลักการ ว่าเหตุใดประเทศไทยไม่ควรเข้าร่วมลงนามในข้อตกลง CPTPP นี้
ผมขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนติดตามการประชุมสภาอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดนั้นล้วนจะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราโดยตรง ส.ส. พรรคก้าวไกลทุกคนจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพิทักษ์รักษาประโยชน์สูงสุดของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
