วันที่ (30 พ.ย.) นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า
“แพ้ก็คือแพ้ รัฐบาลคุ้นชินใช้อำนาจเผด็จการจนลืมว่านี่คือระบบรัฐสภา”
“การประชุมสภาผู้แทนราษฎรช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์สภาล่มถึง 2 ครั้ง เนื่องมาจากการลงมติ ญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้อำนาจของ คสช. การออกคำสั่งของและการใช้มาตรา 44 ของ คสช.
ที่ผ่านมามีการลงมติหลายครั้ง ฝ่ายรัฐบาลแพ้บ้าง ฝ่ายค้านแพ้บ่อยกว่า ในครั้งที่ฝ่ายรัฐบาลแพ้การลงมติที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ แล้วทำไมญัตติการตั้ง กมธ.นี้ถึงเดิมพันสูงแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ตั้งมาเพียงเพื่อศึกษา เรียบร้อยแล้วก็จะได้รายงานหนึ่งฉบับ นำเข้าสภา ไม่มีอำนาจใด ๆ ไปบังคับสั่งการ เหตุใดฝ่ายรัฐบาล ถึงไม่ยอมแพ้ แพ้แล้วแต่ไม่ยอมแพ้จึงต้องขอนับคะแนนใหม่ หรือจะเป็นไปตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ว่า มีการสั่งการมาบอกว่าให้แพ้ไม่ได้ใช่หรือไม่
หากข่าวที่ว่าบิ๊ก ๆ ในรัฐบาลไม่ยอมให้ตั้ง กมธ. ชุดนี้เป็นเรื่องจริง ก็จะสะท้อนถึงความคุ้นชินในการใช้อำนาจเผด็จการ การใช้อำนาจเผด็จการโดยไม่มีใครตรวจสอบมาตลอด 5 ปี วันนี้กลับเข้ามาสู่ระบบปกติ มีการเลือกตั้งมีสภา ซึ่งก็ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจต่าง ๆ ของรัฐบาลแล้วสภาผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของคณะ คสช. สิ่งหนึ่งที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้จะต้องตระหนักเอาไว้ คือ สภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เหมือนที่พวกท่านเคยทำกันมา พวกเราไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของพวกท่าน ถ้าสภามีมติชัดเจนไปแล้ว ก็ควรจะแพ้ให้เป็น คุณกังวลใจกับการตรวจสอบพวกคุณมาก กังวลใจกับการสืบทอดอำนาจของพวกคุณมาก จนทำให้ระบบทั้งหลายพังไปหมดแล้ว
เมื่อมีมติออกมาแล้วไม่ยอมรับขอให้นับใหม่ ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในสภาฯ ไม่ยอมมาชี้แจงต่อกรรมาธิการ ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลให้เกิดการเสียต้นทุนมหาศาล ยอมแลกศักดิ์ศรีของสถาบันการเมืองต่าง ๆ ยอมแลกระบบรัฐธรรมนูญ ยอมแลกเอาทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ได้สืบทอดอำนาจ เพียงเพื่อให้ได้กลับเข้ามามีอำนาจต่อ เพียงเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลต่อ เพียงเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาตรวจสอบ ตกลงแล้วเราจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศพังลงไป เพียงเพื่อรักษาอำนาจของคนไม่กี่คนอย่างนั้นหรือ
ท่านเรียกคนอื่นเข้าไปปรับทัศนคติมาโดยตลอด ท่านต้องไปปรับทัศนคติตนเองบ้าง ตอนนี้ก็ได้เป็นรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญแล้ว อยู่ในระบบรัฐสภาแล้ว ต้องยอมรับการทำงานของสภาและมติในสภา “แพ้ก็คือแพ้” อย่าเป็นคนที่ยอมไม่ได้ หัดเรียนรู้การทำงานของระบบรัฐสภาเสียบ้าง ต้องยอมรับว่าสภาเป็นกลไกสำคัญมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการ”