นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการ การแก้รัฐธรรมนูญให้มี สสร. ยังไม่เพียงพอ พร้อมทั้งชี้ว่าต้องยกเลิก ส.ว. 250 คนด้วย จึงจัดการกลไกการสืบทอดอำนาจได้ โดยเนื้อหาของโพสต์ระบุว่า
เป็นอันว่าพรรคฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างเห็นตรงกันว่า ต้องเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มหมวดใหม่ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ นี้ แต่ต้องยกเว้นไม่แตะต้องหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์
พปชร. หนุนตั้ง ส.ส.ร. แก้รัฐธรรมนูญ ห้ามแตะหมวด 1- หมวด2
ภูมิใจไทย หนุนแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เปิดทางตั้ง ส.ส.ร. พร้อมให้ ยุบสภา
คาดหมายกันว่า ในวันที่ 1 กันยายน อาจมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวในวาระแรก
ปิยบุตร ชี้ปิดสวิตช์ส.ว.-เริ่มต้นล้างมรดกบาปคสช. -เปิดทางร่างรัฐธรรมนูญประชาชน
หากควานหา ส.ว. 84 คนมาสนับสนุนไม่ได้ ก็ต้องจบไปตั้งแต่ยกแรก
แต่ถ้า ส.ว. ยอมในวาระแรก ก็จะได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณารายมาตราในวาระสองต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มี สสร. มาทำรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ยังไม่เพียงพอกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และทำไปทำมา อาจเข้า “เกมถ่วงเวลา-ซื้อเวลา” ของรัฐบาลด้วย
ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ แม้ผ่านวาระแรกแล้ว ในท้ายที่สุดจะผ่านวาระสามหรือไม่ และเมื่อผ่านวาระสามไปได้ ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า รัฐบาลสืบทอดอำนาจจะใช้กลไกรัฐที่พวกเขาฝังไว้มาหลายปี เพื่อชี้นำกำหนดผลการออกเสียงประชามติได้อีกหรือไม่ หรือ จะถ่วงประวิงเวลาด้วยการอ้างว่าต้องออก พ.ร.บ. ประชามติใหม่เสียก่อน จึงจะจัดให้มีการออกเสียงประชามติในร่างรัฐธรรมนูญได้
ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ จะใช้เวลานานเท่าไร? 6 เดือน 8 เดือน หรือ 1 ปี แล้วกว่าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ กว่าจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่เข้าแทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 รวมทุกขั้นตอนต้องกินเวลากี่ปี?
ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถประคองตนเองจากวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจไปได้นานแค่ไหน หากเขาผ่าทางตันด้วยการยุบสภา ให้ไปเลือกตั้งใหม่ การเลือกตั้งนั้นก็ไม่มีความหมาย เพราะเขายังคงมี ส.ว. 250 คนเป็นตัวช่วยเสมือนเป็น “พรรค ส.ว.” ของเขา เลือกเขากลับมาใหม่อยู่ดี
เพื่อไม่ให้การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร. เป็น “การถ่วงเวลา-ซื้อเวลา” รัฐสภาและรัฐบาลต้องพิสูจน์ความจริงใจด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ เพื่อจัดการกลไกการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้หมดไป
นั่นคือ
- ยกเลิกมาตรา 269-272 ยกเลิก ส.ว. แห่งการสืบทอดอำนาจ 250 คนทันที
- ยกเลิกมาตรา 279 ที่รับรองให้การใช้อำนาจของ คสช. ทั้งหมดชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญไปชั่วกัลปาวสาน
อย่าใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร. เพื่อเป็นเหตุลดทอนการชุมนุม ต่อไปจะได้อ้างว่า “ก็แก้รัฐธรรมนูญให้แล้วไง ไม่เห็นหรือ ต้องรอ ต้องใช้เวลา อย่าเอาแต่ใจ เลิกการชุมนุมไปเถอะ” เสร็จแล้วบรรดานักการเมืองในสภาและในทำเนียบรัฐบาล ก็มีความสุขกับอำนาจอย่างสบายใจต่อไป จนครบวาระ 4 ปี
ผมขอเรียกร้องให้รัฐสภาและรัฐบาลแสดงความจริงใจต่อประชาชน ด้วยการ
- แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มี สสร. มาทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา ภายใต้หลักการรัฐเดี่ยว ราชอาณาจักร และประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน และให้ สสร. มาทำรัฐธรรมนูญใหม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
- ระหว่างนั้น แก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิก ส.ว. 250 คน มาตรา 269-272 และยกเลิกมาตรา 279
ทำเช่นนี้ได้ คนไทยทุกคนชนะด้วยกัน ไม่มีใครแพ้
กลับมาเริ่มต้นใหม่ ยุติการสืบทอดอำนาจ การเมืองไทยเข้าสู่ระบบปกติ
เพื่อคนไทย เพื่อลูกหลานของเรา เพื่ออนาคตประเทศไทย