ความเคลื่อนไหวภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ
เปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค รวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย ม.ล.ชโยธิต กฤดากร นายชวิน อรรถกระวีสุนทร นายวิท วรรณไกรโรจน์ นายวินท์ สุธีรชัย นายจุติ ไกรฤกษ์ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ โดยมีชื่อที่สร้างความฮือฮาได้แก่ หมอเหรียญทอง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
โดย หมอเหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา หลังเปิดตัวร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 ระบุข้อความว่า
ภาพนี้มีชื่อว่า “พี่เอาไง ผมเอาด้วย”
ผมเป็น ‘หัวหน้าคณะทำงาน พรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต การแพทย์ การสาธารณสุข’
แนวทางในการวางแผนและโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ รทสช. จะแบ่งออกเป็น
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตในชนบทและพื้นที่ห่างไกลที่มีประชากรเบาบาง
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตในเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรแออัดหนาแน่น เช่น กทม. , นครราชสีมา , เชียงใหม่ , สงขลา เป็นต้น
สำหรับยุทธศาสตร์ในการวางแผนการปฏิบัติ จะยึดหลัก
- “สังคมเข้มแข็ง ประชาชนมีส่วนร่วม ภาครัฐสนับสนุน” ทั้งนี้เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นไปอย่างยั่งยืน
- “ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน”
ผมจะไม่วางแผนและโครงการที่เป็นประชานิยมในรูปแบบ ‘การแจก’ ที่เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะงบประมาณแผ่นดินมีจำกัด ประเทศเราไม่ได้ร่ำรวยจนมีเงินให้พรรคการเมืองนำมาถลุง หาเสียง ‘แจกฟรี’ ซึ่งหากทำเช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง
กลยุทธ์ในการปฏิบัติที่ผมจะนำมาใช้ในการวางแผนการพัฒนาสู่ความยั่งยืน คือ
- การจัดตั้ง ‘วิสาหกิจเพื่อสังคม [Social Enterprice , SE]’ มาขับเคลื่อนเพื่อการแก้ไขพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาชุมชนและสังคม
- การสร้างเครือข่าย ‘จิตอาสา’ เพื่อการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยแนวทาง-ยุทธศาสตร์-กลยุทธ์ในการปฏิบัติข้างต้น จะสามารถต่อยอดให้เกิดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมากมาย เช่น
- โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรแออัดหนาแน่น เช่น กทม. , นครราชสีมา , เชียงใหม่ , สงขลา เป็นต้น ตัวอย่างเช่น รพ.วิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำเขต/อำเภอใน กรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยบัตรทอง และผู้ป่วยทุกสิทธิรักษาพยาบาล โดยสามารถรักษาฟรีตามสิทธิ ทั้งนี้เป็นการดำเนินการโดย ‘ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน’
- โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในชนบทและพื้นที่ห่างไกลที่มีประชากรเบาบาง เช่น
2.1 โครงการเพิ่มขีดความสามารถ รพ.ชุมชน/อำเภอ/จังหวัด ในพื้นที่ชนบท ทุกภูมิภาค โดย รพ.วิสาหกิจเพื่อสังคม จะขึ้น ‘สมทบ’ ในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนระหว่าง รพ.ชุมชน/อำเภอ/จังหวัด กับ รพ.วิสาหกิจเพื่อสังคม’ เพื่อการเพิ่มเติมขีดความสามารถทางการแพทย์ให้แก่ รพ.ชุมชน/อำเภอ/จังหวัด ทั้งนี้เป็นการดำเนินการโดย ‘ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน’
2.2 โครงการ ‘ศูนย์ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย” ประจำชุมชน/ตำบล/อำเภอ/จังหวัด โดย ‘ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน’
2.3 โครงการ “ศูนย์ฉายรังสีด้วยเครื่องเร่งอนุภาค” ขึ้นสมทบ รพ.จังหวัด โดย ‘ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน’ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องฉายรังสี ไม่ต้องรอคิวช้านานอันเป็นการเสียโอกาสในการรักษาและไม่ต้องเดินทางไกล
2.4 โครงการ “ระบบปฏิบัติการหน่วยบินพยาบาล” ประจำภาค เพื่อการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตที่เกินขีดความสามารถของ รพ.ชุมชน/อำเภอ/จังหวัด โดย ‘ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน’ - โครงการลดงบประมาณแผ่นดินในด้านการรักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัว แต่ไม่ลดคุณภาพการรักษานะครับ จากนั้นเพิ่มจำนวน รพ.เอกชนให้ข้าราชการและครอบครัวสามารถใช้บริการได้อย่างทั่วถึง โดยสามารถ ‘เบิกจ่ายตรง’ กับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
- โครงการ ‘สร้างรายได้เข้าประเทศ’ เข้าสู่กองทุนบัตรทอง เพื่อนำรายได้มาเพิ่มคุณภาพการรักษาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทอง เช่น การขายประกันสุขภาพ การขายแพ๊คเกจการรักษาแบบเหมาจ่ายแก่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นต้น ทำให้ประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิบัตรทองมีงบประมาณในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นจากรายได้ต่างชาติ ซึ่งหมายความว่าประชาชนชาวไทยจะได้รับการรักษาจากสิทธิบัตรทองอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดย ‘ไม่ต้องสิ้นเปลืองบประมาณแผ่นดิน’
5.อื่นๆ (ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายมีส่วนร่วมเสนอแนะด้วยครับ)
นโยบายประชานิยมข้างต้นจะเป็นการดำเนินการที่ยึดหลักการ “ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ” ทั้งสิ้นนะครับ
เลือกลุงตู่ เชื่อฝีมืออาเหรียญ …เลือก รทสช.ทั้ง 2 ใบกันนะครับ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY