วานนี้ (27 ต.ค. 63) ศรีไพร กลุ่มสหภาพแรงงานฯ หรือ ศรีไพร นนทรีย์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า พบกล้องปริศนาใต้รถยนต์ตัวเอง เปิดออกมาเจอ GPS กับเครื่องดักฟัง โดยระบุว่า
เครือข่ายองค์กรด้านเด็กฯ รวมตัวกดดัน ปล่อย ตัน สุรนารถ หลังถูกรวบผิด ม.110
เยาวชนปลดแอก โว ปชช.หลายล้านคนพร้อมลงถนน หากรัฐไม่รับข้อเรียกร้อง
เดิมทีการถูกคุกคามเล็กๆน้อยๆเช่นการโทรมาก่อกวนไม่ถึงขั้นอาฆาตมาดร้าย พี่มักจะปล่อยๆไม่ใส่ใจมากนัก เต็มที่ก็แค่บล๊อคกันไป แต่เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานมี่พบเจอ มันทำให้ปล่อยไปไม่ได้และคิดว่าควรต้องแจ้งพวกเราทุกคนว่าพวกเราต้องระวังตัวมากขึ้น เหตุที่เกิดขึ้นเรื่องแรกคือ (ภาพที่1เลขสีแดง) เป็นบุคคลที่ใช้รูปเด็กทำโปรไฟล์มาขอแอดเป็นเพื่อน และใช้ชื่อธนากร ซาแสน พอกดรับเป็นเพื่อนปุ๊บ ผู้ที่ใช้ชื่อธนากรโทรเข้ามาและพูดจาก่อกวนแบบทุเรศๆใส่พี่ทันที พี่ก็บล็อกทันทีเช่นกัน เรื่องนี้จบไปไม่ได้ใส่ใจอะไรหลังจากนั้น
ชายรักสถาบันฯ แต่ต้านเผด็จการ ในม็อบหมอเหรียญทอง ร่วม ม็อบราษฎร
จนมาถึงเหตุการณ์เมื่อวาน(26ตค.) (ภาพ1-9ตัวเลขสีฟ้า) ขณะที่กำลังจะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมัน ลูกหมาจรจัดที่เก็บมา5ตัว เข้าไปเล่นกันอยู่ใต้ท้องรถ เลยต้องก้มลงดูใต้ท้องรถเพื่อไล่ลูกหมาออก มองเห็นถุงพลาสติกใสติดอยู่กับเหล็กใต้ท้องรถด้านผู้โดยสารด้านหลังเยื้องกับคนขับ มีร่องรอยลูกหมากัดเล่นจนปลายถุงพลาสติกห้อยลงมา พี่จึงพยามดึงพลาสติกออกแม้ว่าดึงออกค่อนข้างยากเพราะถุงพลาสติกติดแน่นมาก ออกแรงดึงอีกมีกล่อง 2 กล่องเล็กตามภาพเลข 1-2 หล่นร่วงลงมากับถุงพลาสติก ขณะนั้นก็ยังนึกว่ากล่องระบบไฟของรถยนต์ จากนั้นจึงไปเอากระจกมาส่องดูใต้ท้องรถว่ามีอะไรหลุดหรือจุดใดชำรุดหรือไม่ สรุปไม่มี อ้าว…แล้วมันคือกล่องอะไร พันด้วยเทปสีดำ ส่งภาพ 1-2 ไปให้ทนายดู ทนายก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนเรียกเพื่อนบ้านมาดู พี่แกเอามือจับ เราก็เตือนว่าอาจเป็นระเบิดรึป่าวมันแปลกๆ แกเลยบอกว่ารอลูกชายมาก่อนจะแกะแล้วถ่ายคลิปเก็บไว้ แกบอกก่อนทีพี่จะขับรถออกมาว่า คาดว่าน่าจะเป็นกล่องติดตาม (GPS) ไม่น่าจะเป็นอันตราย
รุ่งเช้าเพื่อนบ้านบอกว่าแกะกล่องแล้วนะ แต่ไม่ได้ถ่ายคลิปเพราะลูกชายกับเมียกลัวหนีกันไปหมด แกเลยแกะคนเดียว สรุปเป็นกล่อง GPS 1กล่อง ส่วนอีกกล่องใส่แม่เหล็ก แล้วเอาเทปดำพันประกบติดกันจากนั้นใส่ถุงพลาสติกกันโดนน้ำแล้วนำมาติดกับเหล็กใต้ท้องรถที่พี่ขับ พี่ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนนำมาติด แต่มั่นใจเกือบ 100% ว่าเป็นตำรวจที่เคยติดตามพี่ตั้งแต่คดีคนอยากเลือกตั้ง เพราะช่วงนี้ตำรวจที่เคยติดตามพี่มีอาการแปลกๆที่เจอหน้ากันในที่ชุมนุม ซึ่งจริงๆรู้สึกแปลกใจกับตำรวจนอกเครื่องแบบเหล่านี้ตั้งแต่ก่อนเจอกล่อง GPS ว่าทำไมพวกตำรวจเหล่านี้มีอาการหลบหน้าหลบตาเวลาเจอเวลาคุย วันนี้ถึงบางอ้อ
ฝากนักกิจกรรมนักเคลื่อนไหว รวมทั้งผู้เข้าร่สมชุมนุมทุกคนตรวจดูรถยนต์ให้บ่อยที่สุดด้วยการใช้กระจกส่องใต้รถ เพราะถ้าแค่ก้มดูจะหาไม่เจอ มองไม่เห็น กรณีพี่ กล่องถูกติดอยู่ใต้ท้องรถลับตาคน ถ้าลูกหมาไม่กัดถุงพลาสติกที่ห่อหุ้มขาดลงมาแล้วพี่ดึงหลุด ก็จะมองไม่เห็นเลย
กล่องGPSที่พี่เจอนอกจากเป็นกล่องที่ติดตามว่าเราใช้รถไปที่ไหนบ้าง ยังสามารถฟังได้ด้วยว่าพวกเราบริเวณนั้นคุยอะไรกัน
