พี่เต้007 | นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
#น้ำเริ่มแล้ง# ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการ หล่อเลี้ยงระบบนิเวศ อุปโภคบริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม เริ่มเป็นปัญหามากขึ้นก่อนเวลา มาไวในช่วงหน้าหนาว กว่าหน้าฝนมาก็อีกกว่า 6.5 เดือน เราจะทำอย่างไร ถึงจะประหยัด เมื่อน้ำในเขื่อนเหลือประมาณภาคเหนือ 46% ภาคกลาง 24% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 53% ภาคตะวันออก 48% ภาคตะวันตก 83% ภาคใต้ 86% โดยเฉพาะภาคกลางวิกฤตเลย เหลือแค่ 24% วิกฤตปานกลาง คือภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 1 ปี จะต้องมีน้ำไว้รักษาสมดุลระบบนิเวศประมาณ 33% ของความจุทุกเขื่อน หรือประมาณ 23,895 ล้าน ลบ.ม. ทุกเขื่อนมีความจุรวม 70,926 ล้าน ลบ.ม. 100% ปัจจุบัน 44,507 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 63% คงเหลือใช้ได้ 20,612 ล้าน ลบ.ม. ประเทศเราใช้น้ำอุปโภคบริโภค 73 ลบ.ม./คน/ปี ประชากรไทย 65.5 ล้านคน แรงงานต่างด่าว 3.5 ล้านคน นักท่องเที่ยว 40 ล้านคน/ปี ประมาณการน้ำที่ต้องใช้อุปโภคบริโภค 6,000 ล้าน ลบ.ม./ปี พื้นที่เกษตรกรรม ประมาณ 138 ล้านไร่ 100% ถ้า 1 ไร่ ต่อ ปีใช้น้ำ 1,000 ลบ.ม. ใน 1 ปี เกษตรกรรมใช้น้ำปีละ 138,000 ล้าน ลบ.ม.
แต่ถ้าเทียบปริมาณน้ำหักอุปโภคบริโภคไปใช้ในพื้นที่เกษตรกรรมได้แค่ 10.58% แสดงว่าพื้นที่เกษตรอีกกว่า 89.42% จะไม่มีปริมาณน้ำที่ใช้ในการเกษตรได้ ถ้าคิดจะปลูกข้าว 10 ไร่ จะทำได้แค่ 1 ไร่ ยังไม่รวมน้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรมต้องใช้จำนวนมาก ซึ่งต้องแย่งน้ำใช้กัน ซึ่งเกิดขึ้นที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ แล้ว ข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหา 1.ถ้าความชื้นในอากาศพอให้เร่งทำฝนหลวง 2.ทำธนาคารน้ำใต้ดิน ฝันน้ำใต้ดินกลับมาใช้ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งบริโภคและเกษตรกรรม 3.ใช้เทคโนโลยี การทำน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืดมาใช้ หรือ Desalination 4.สร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเล กับ น้ำจืด พร้อมสร้างระบบผันน้ำกลับเข้าสู่ระบบชลประทาน เพื่อไม่ให้น้ำจืดไหลลงทะเลในช่วงน้ำแล้ง
