ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจเฟสบุ้คว่า หมดเวลาสำหรับการเมืองผูกขาด ถึงเวลาเอาอำนาจ-งบประมาณ กลับคืนสู่ท้องถิ่น ปลุกประชาชนมีส่วนร่วม
เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาการเมืองภาคประชาชนในการปกครองส่วนท้องถิ่น” ที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งจัดโดย คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี ผศ. ชาญณวุฒ ไชยรักษา นักวิชาการด้านการปกครองท้องถิ่น ร่วมเป็นวิทยากร และปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. เขต 1 พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ
.
ธนาธร กล่าวว่า อำนาจที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของงบประมาณ ทุกคนตื่นมาก็ต้องจ่ายค่าภาษี ในชีวิตประจำวันเราล้วนมีค่าภาษีทั้งสิ้น ได้เงินเดือนมาก็เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา แต่ภาษีทั้งหมดถูกบริหารโดยรัฐส่วนกลาง หากเอารายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 103 แห่งในจังหวัดพิษณุโลกมารวมกันจะมีงบประมาณ 7,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยที่สามารถนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
หากไม่มีการรัฐประหาร ในฐานะประชาชนคนไทยเราจะมีสิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งได้ 5 ครั้ง ในรอบ 4 ปี นั่นคือ เลือกตั้งระดับประเทศ, เลือกนายก อบจ., เลือกสภาจังหวัด, เลือกนายก อปท. และเลือกสภา อปท. โดยแต่ละระดับการบริหารต่างได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แต่แบ่งงานกันทำตามภาระหน้าที่
ที่ผ่านมา ส.ส. ต่างก็เข้าไปต่อรองเอางบประมาณมาพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างผลงานให้ประชาชนในพื้นที่ได้เห็น ประชาชนบางส่วนเองก็คาดหวังให้ ส.ส. พัฒนาพื้นที่ สิ่งเหล่านี้เป็นโครงสร้างที่บิดเบี้ยว เพราะแท้จริงแล้ว ส.ส. มีหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร มีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติในการออกกฎหมาย โดยไม่มีอำนาจหรือกฎหมายข้อไหนที่ ส.ส. จะมีอำนาจในการจัดการงบประมาณ แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารในหน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนั้นๆ ต่างหาก ทั้งหมดนี้ถูกบิดเบือนไป กลุ่มอภิสิทธิ์ชนเขาไม่ต้องการเห็นประชาชนเข้มแข็ง ไม่ต้องการเห็นท้องถิ่นเข้มแข็ง เขาต้องการทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง งบประมาณจึงถูกเก็บไว้ที่ส่วนกลาง นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่นี่คือความจงใจของกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ที่จงใจเอาประชาชนออกจากสมการทางการเมือง เอาประชาชนออกจากอำนาจอธิปไตย ดังนั้นการปลดปล่อยศักยภาพของประเทศไทย คือ การคืนอำนาจในการจัดสรรงบประมาณสู่ท้องถิ่น
“การยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ต้องทำจากบนลงล่างและล่างขึ้นบนไปพร้อมๆ กัน ความหมายจากบนลงล่าง คือ จำเป็นต้องปลดล็อค เอาอำนาจ งบประมาณ และความเป็นอิสระ คืนสู่ท้องถิ่น ตรงนี้ท้องถิ่นทำเองไม่ได้ ต้องอาศัยสภาผู้แทนราษฎรและคนที่หนักแน่นที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นจริงๆ ต้องแก้ไขกฎหมายตามกระทรวง-กรมต่างๆ แก้การเมืองระดับชาติ รวมถึงต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งเป็นอุปสรรคต่อหลักของการกระจายอำนาจด้วย แต่ในขณะเดียวกันจากล่างขึ้นบนคือเราต้องสร้างการเมืองท้องถิ่นที่ดี เพราะการเมืองท้องถิ่นหลายที่ถูกครอบงำด้วยบ้านใหญ่ ทำให้หลายคนอาจเคยได้ยินวลีที่ว่า การเมืองเป็นเรื่องสกปรก จนไม่อยากเข้าไปยุ่งกับการเมือง ถึงทำให้อำนาจทางการเมืองถูกผูกขาด” ธนาธร กล่าว
การเมืองคือเรื่องของ 7,600 ล้านที่เป็นงบประมาณของ อปท. พิษณุโลก ถ้าคุณไม่ยุ่งกับการเมือง เท่ากับเป็นการอนุญาตให้คนต่างๆ เหล่านั้นเอาเงินซึ่งเป็นภาษีของเราไปใช้ตามใจชอบ ถามว่าทำไมถนนหน้าบ้านไม่ดีขึ้น ถามว่าทำไมโรงเรียนของลูกเราไม่ดีขึ้น ทำไมเราไม่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการเมือง
“การเมืองเป็นเรื่องสร้างสรรค์ ที่จะทำให้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นถึงเวลาแล้ว ที่เราจะมาเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการยุติรัฐราชการรวมศูนย์ และทำให้ประชาชนสนใจการเมืองท้องถิ่น กลับมาเชื่อมั่นว่าการเมืองคือเรื่องสร้างสรรค์ การเมืองคือเรื่องของอนาคตของลูกหลานของเรา” ธนาธร กล่าว
ด้าน ชำนาญ จันทร์เรือง กล่าวว่า การปกครองส่วนท้องถิ่นจำเป็นต้องมีนิติบุคล ต้องมีงบประมาณเป็นของตัวเอง ต้องมีผู้บริหารเป็นของตัวเอง ต้องมีสภาท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกสิ่งเป็นส่วนประกอบของการปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสิ้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความรู้เรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยมาก หลายๆ คนไม่รู้ว่า อบต. อบจ. ทำหน้าที่อะไรบ้าง เพราะถูกรวบอำนาจไปไว้ที่ส่วนกลาง นอกจากนี้ปัญหารัฐส่วนกลางกับท้องถิ่นนั้น
รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นการกำกับดูแล ซึ่งไม่ใช่บังคับสั่งการ แต่การที่ภาษีถูกเก็บไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้ อปท. กลายเป็นหน่วยงานที่รับงบประมาณแต่ไม่สามารถพัฒนาอะไรได้ ทุกครั้งที่เกิดการรัฐประหารเมื่อไร อปท. สะดุดเมื่อนั้น เพราะจะเกิดการแต่งตั้งมากกว่าเลือตั้ง ซึ่งความสำคัญของท้องถิ่นมีบทบาทมากในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน ไม่มีประเทศไหนในโลก ที่มีประชาธิปไตยที่เข้มแข็งแล้วการปกครองส่วนท้องถิ่นไม่เข้มแข็ง เราเกิดมาอยู่กับท้องถิ่น แต่มีความรู้เรื่องท้องถิ่นน้อยมาก หลายๆ คนเกิดมายังไม่เคยเลือกตั้งท้องถิ่นเลยสักครั้ง
ธนาธร ชี้เงินนอกงบต้องโปร่งใส กรณีศึกษา TOT – CAT
ธนาธร ชี้ คดี บอส อยู่วิทยา สะท้อนสังคม มองประเทศน่าอยู่สำหรับคน VIP คนเล็กกลับติดคุก
ธนาธร ซัดปรับครม.ไม่มีประโยชน์ถ้า บิ๊กตู่ ยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มองแก้ปัญหาประเทศไม่ได้