ฐปณีย์ – วันที่ 21 พ.ย. 63 จากกรณีที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรที่แยกเกียกกายเมื่อวันที่ 17 พ.ย. จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตากว่า 33 คน หนึ่งในจำนวนนี้คือ น้องอ๋อง จากช่องยูทูป เด็กเล่าข่าว ที่เป็นที่รู้จักหลังลงพื้นที่รายงานข่าวในพื้นที่ชุมนุมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่าน และได้ ฐปณีย์ เอียดศรีไชยสอนเล่าข่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน้องอ๋องได้รับผลกระทบจากน้ำผสมสารเคมีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีอาการหายใจไม่ออก ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลวชิระพยาบาล ต่อมามีการตั้งคำถามต่อ The Reporters พาเด็กเข้ามาทำข่าวในที่ชุมนุมที่เป็นพื้นที่เสี่ยง จะเป็นการละเมิดสิทธิเด็กหรือไม่
ออกแล้ว! ผลการวิเคราะห์น้ำที่ใช้ สลายการชุมนุม ม็อบราษฎร ที่ แยกเกียกกาย
ลูกเกด เปิดภาพ การ์ดราษฎรผิวไหม้จาก แก๊สน้ำตา ลั่น หยุดแก้ตัวให้ตำรวจ
ล่าสุด ฐปณีย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า ดิฉัน น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้ง สำนักข่าว The Reporters จึงต้องขอชี้แจงดังนี้ว่า น้องเด็กเล่าข่าว ทั้ง 2 คน ไม่ได้เป็นพนักงานในสังกัดของ The Reporters และไม่ได้เป็นผู้ชักนำ ผู้นำพา หรือส่งเด็กมาทำข่าวในการชุมนุม
ทราย เจริญปุระ เผยภาพผิวไหม้-พุพอง จากแก๊สน้ำตา ถาม ทำกันขนาดนี้เลยหรอ?
ที่ผ่านมาดิฉันได้พบเด็กทั้งสองคนมาทำข่าวในสถานที่ชุมุนม เมื่อวันที่ 15 ต.ค.63 และได้สอบถามทราบว่าผู้ปกครองอนุญาตให้เข้ามาได้ และทั้งสองคนมีความชื่นชอบ มีความฝันอยากเป็นนักข่าว จึงขอเรียนรู้การทำข่าวจากพี่ๆนักข่าวในสนามข่าว ที่ไม่ได้มีเพียง The Reporters แต่มีพี่ๆนักข่าวที่ให้ความเอ็นดูน้องทั้งสองคนช่วยกันให้คำแนะนำ
ทุกครั้งที่ทั้งสองคนจะมาทำงานข่าว จึงจะโทรหา ดิฉัน เพื่อแจ้งว่าจะมาทำข่าว ซึ่ง ดิฉัน จะแจ้งเตือนทุกครั้ง หากการชุมนุมใดที่เสี่ยงต่ออันตราย ไม่สนับสนุนให้ทั้งสองคนเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม แต่เนื่องจากทั้งสองคน มีความตั้งใจที่จะมาเรียนรู้การทำข่าว และบอกว่าจะระมัดระวังตัวให้ดีที่สุด ซึ่งเมื่อมาแล้ว ในฐานะผู้ใหญ่ในพื้นที่ จึงเห็นว่า การที่เด็กได้มาอยู่ใกล้ตัวเราจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่จะสามารถให้ความคุ้มครองเด็กได้ ที่สำคัญคือพวกเขาได้มาเรียนรู้ข้อเท็จจริงต่างๆด้วยตัวเอง
แต่เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เมื่อตำรวจเริ่มใช้มาตรการควบคุมฝูงชน ทุกคนไม่สามารถเคลื่อนย้ายหากันได้ ทีมข่าว The Reporters ก็กระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆ ส่วนน้องเด็กเล่าข่าว ทั้ง 2 คน ทีมงานได้เน้นย้ำให้ไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ซึ่งทั้งสองได้ออกไปอยู่ที่ห้างสุพรีม แยกบางกระบือ ถนนสามเสน ห่างจากแนวปะทะแล้ว และขณะนั้นไม่ได้อยู่ในการดูแลของทีมข่าว The Reporters จึงไม่ทราบเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุกับ น้องอ๋อง
จนมาทราบข้อเท็จจริงว่า ในขณะที่น้องอิคคิว เด็กเล่าข่าวอีกคน ทานข้าวอยู่กับพี่ช่างภาพที่รู้จักในห้างสุพรีม น้องอ๋อง ได้ออกไปดูเหตุการณ์การชุมนุม ที่ด้านนอกห้างสุพรีม และได้รับผลกระทบจากการฉีดน้ำผสมสารเคมี ที่ได้ล้างตา ล้างหน้าเบื้องต้น แล้วเข้ามาพักในห้างสุพรีม จนผ่านไป 30 นาที รู้สึกหายใจไม่ออก จึงไปขอความช่วยเหลือที่รถพยาบาล เพื่อนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งพบว่าอาการปลอดภัยดี และหลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์สอบถามด้วยความห่วงใย ทราบว่าถึงโรงพยาบาลและครอบครัวได้มาดูแลแล้ว
จากข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉัน น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ในฐานะผู้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลน้องให้ปลอดภัยได้ และได้แจ้งไปยังผู้ปกครองของน้องทั้งสองทราบแล้วว่า สถานการณ์การชุมนุมมีความเสี่ยงและอันตรายมากขึ้น จึงขอให้ผู้ปกครองให้การดูแลเพื่อไม่ให้เด็กๆเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมตามลำพัง
นอกจากนี้ ขอยืนยันด้วยว่า The Reporters ไม่ได้ส่งเด็กไปทำข่าว ไม่คิดจะแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ที่พบมีการสัมภาษณ์ ก็เป็นการสอนการทำข่าว ให้เด็กได้เรียนรู้ ซึ่งถือเป็นการให้เด็กอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย จากสถานการณ์การชุมนุม และคำนึงถึงหลักสิทธิเด็กเสมอ
“เราเห็นถึงความตั้งใจ ความใฝ่ฝันของเด็กที่อยากเป็นนักข่าว เรามิอาจปิดกั้นความฝันของเขาได้ แต่เราจะช่วยสอนเขาในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดกับเด็ก และคงต้องให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้ในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป”
ด้วยความเคารพ
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters