นาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกระแสข่าวในชั้นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ที่มีส.ส.เรียกรับเงินหรือตบทรัพย์ และตั้งงบประมาณเกินจริงเพื่อหักหัวคิวว่า ในเรื่องนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบให้คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องไปพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งจะเชิญผู้เกี่ยวข้องในการพิจารณางบประมาณเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้เปิดโปงพฤติกรรมการตบทรัพย์ของอนุกรรมาธิการบางคน และจะเชิญอนุกรรมาธิการทุกคนมาสอบสวนด้วย เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีประเด็นอะไรที่สลับซับซ้อนมากนัก น่าจะสอบสวนได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เทพไท หนุนแก้รธน.มาตรา 256 จี้ทุกฝ่ายเร่งสรุปปลดล็อกประเทศ หวั่นการชุมนุมยืดเยื้อนานเกินควร
เทพไท เอาใจ…คอกระท่อม เขย่าลูกคอร้องเพลงกระท่อม กัญชง กัญชา ผ่านฉลุย!!
นายเทพไท กล่าวว่า พฤติกรรมแบบนี้ มีเกิดขึ้นจริงในการพิจารณางบประมาณประจำปีของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเพียงแต่ปีงบประมาณนี้ มีคนกล้าแบบอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลออกมาเปิดโปง จึงเป็นที่สนใจของสังคมขึ้นมาเพราะการเป็นกรรมาธิการงบประมาณ จะมีความสำคัญและมีบทบาทในการตัดลดงบประมาณของกระทรวง ทบวงกรมต่าง ๆ จึงเป็นที่เกรงกลัวของบรรดาข้าราชการระดับผู้บริหารกระทรวง หรือกรมต่างๆ จะไม่มีข้าราชการหรือผู้บริหารคนใดกล้าทะเลาะกับกรรมาธิการ จนมีข่าวซุบซิบนินทากันอย่างหนาหูในหมู่ ส.ส.มาโดยตลอดว่า กรรมาธิการแต่ละคนมีเทคนิคในการพิจารณางบประมาณที่แตกต่างกัน
เทพไท ดันสสร.แก้รัฐธรรมนูญ ห้ามแตะหมวดสถาบันกษัตริย์
มีการตั้งก๊วน ตั้งแก๊งแบ่งหน้าที่กันทำ มีการเจรจาของบประมาณลงพื้นที่ของตัวเอง มีผู้ทำหน้าที่เสนอตัดงบประมาณหรือเสนอแขวนงบประมาณในห้องประชุม จนต้องมีการเคลียร์งบประมาณ หรือเกี้ยเซี้ยะกันกับผู้บริหารระดับกระทรวงหรือกรม จนถึงการของานโครงการรับเหมาก่อสร้างกัน จึงเป็นที่มาของการแย่งชิงการเป็นกรรมาธิการงบประมาณในพรรคการเมืองต่าง ๆ ของทุกปี ถึงขั้นต้องโหวตกันภายในพรรค ทะเลาะกัน จนต้องออกมาเปิดโปงโจมตีกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ย่อมมีผลประโยชน์แอบแฝง ซึ่งบางคนมักจะทำตัวเป็นกรรมาธิการงบประมาณมืออาชีพ จองตำแหน่งขอเป็นกรรมาธิการงบประมาณทุกปี ถ้าปีไหนพลาดโอกาส ก็จะออกอาการ ฟาดงวงฟาดงา ตามที่เป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยๆ
นายเทพไท กล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.มาหลายสมัย เป็นนักการเมืองมาเกือบ 20 ปี แต่ยังไม่เคยเป็นกรรมาธิการงบประมาณ หรืออนุกรรมาธิการเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่มีความถนัด และไม่ประสงค์จะไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดงบประมาณใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลในการพิจารณางบประมาณในปีนี้ ก็พร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะล้างความชั่วร้าย การหาประโยชน์แอบแฝง ในการพิจารณางบประมาณแผ่นดินประจำปีของรัฐบาลให้หมดสิ้นไป
ทั้งนี้คิดว่าถึงเวลาที่จะสะสาง กวาดล้างพวกที่หาประโยชน์หรือแอบแฝงอยู่ใน กมธ.งบประมาณ ที่พยายามจะทำตัวเป็นเจ้าพ่องบประมาณ และทำแบบนี้มาทุกๆ ปี คิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้กระจ่าง และจะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ทั้งนี้การลงโทษหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ กมธ.ชุดนี้ แต่ไปอยู่ที่องค์กรอื่น เพียงแต่ว่าเราสามารถนำข้อมูลที่รวบรวมได้นำเสนอประธานสภา เพื่อนำเสนอต่อไปที่ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการจริยธรรม ซึ่งก็แล้วแต่ดุลพินิจของประธาน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายชวน บอกว่า นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ ไม่รับทำกรณีนี้นั้น นายเทพไทกล่าวว่า หลายครั้ง นายอนันต์ก็เกรงใจ ทุกครั้งก็จะปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบ แต่ตนคิดว่าเรื่องนี้ก็จะคุยกับประธาน กมธ.ว่าเป็นภาระหน้าที่ของ กมธ. ดีกว่าไปมอบให้ กมธ.ชุดอื่นๆ ที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงเข้ามาทำ ซึ่งต่างกันที่ประธาน กมธ.ชุดนี้ ไม่อยากทำ ประธานชุดอื่นไม่มีหน้าที่แต่อยากทำ ดังนั้นต้องคุยบทบาทหน้าที่ของ กมธ.แต่ละชุดว่ามีหน้าที่อย่างไร จะปฏิเสธความรับผิดชอบในหน้าที่ไม่ได้ ต้องทำ