คลายล็อกโรงหนัง-ร้านนวด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการผ่อนปรนกิจกรรม กิจการ ในระยะที่ 3 ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นตามลำดับ ว่า ยังไม่มีการพิจารณากิจกรรม กิจการ ระยะที่ 4 ที่จะนำมาผ่อนคลายเปิดใน ระยะที่ 3 อาทิ โรงภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหนังใหม่เข้ามา โดยจะต้องนำเข้าพิจารณาต่อในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.วันพรุ่งนี้(29พ.ค.)
ส่วนการเรียกร้องให้เปิดร้านนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบนั้น ตนเข้าใจว่า ทุกฝ่ายได้รับความเดือดร้อน แต่รัฐพยายามที่จะช่วยเหลือให้เต็มที่ แต่ก็ต้องคำนึงถึงการระบาดระลอกที่ 2 จึงต้องหารือร่วมกันอย่างรอบครอบ เนื่องจากกิจการดังกล่าวมีการสัมผัสตัวอย่างใกล้ชิด
นายเทวัญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดพระแก้ว วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตาราม ยังเปิดให้เที่ยวชมสักการะได้ตามปกติ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่มีนักท่องเที่ยวมาเข้าชม แต่ยังคงงดเพียงกิจกรรมสำคัญทางศาสนาและมีมาตรการรักษาความสะอาดตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้บางวัดเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งจะมีการพิจารณาเยียวยาวัดที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะนำตัวอย่างของปี 2552 ที่พระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ออกบิณฑบาตไม่ได้เพราะมีเหตุการณ์รุนแรง ครม. จึงได้ให้ปัจจัยเยียวยาวันละ 100 บาทต่อรูป มาใช้ในสถานการณ์โควิด-19
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ตนพิจารณา จึงทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงการคลังแล้ว โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทั้งนี้ มีวัดทั้งหมดกว่า 4 หมื่นวัด และพระเกือบ 3 แสนรูปทั่วประเทศ ได้รับความเดือดร้อน คาดว่าใช้งบประมาณเดือนละ 400-500 ล้านบาท โดยจะให้เงินแต่ละวัดไปบริหารจัดการเองตามจำนวนพระที่มี อย่างไรก็ตามเรื่องการเยียวยาก็จะต้องมีการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หากจะใช้โมเดลในกรณีเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าจะเหมาะสมหรือไม่ด้วย
