ความคืบหน้าอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นแตก ส่งผลให้มวลน้ำกว่า3ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำ วันนี้ทีมข่าวขึ้นเฮลิคอร์ปเตอร์บินสำรวจ เห็นว่า น้ำไหลออกหมดอ่าง สภาพเหลือแค่ดินกับตอไม้ใต้อ่าง กรมชลประทานเร่งซ่อม คาดแล้วเสร็จอีก 15 วัน
| หลังจากเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กรมชลประทานแจ้งว่า อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ไม่ได้แตก แต่มีน้ำล้นทำนบดิน และกัดเซาะสันเขื่อนลึกประมาณ 4 เมตร ยาว 20 เมตร ทำให้มีน้ำทะลักลงสู่ด้านท้ายอ่างรวมกับปริมาณน้ำในลำนำธรรมชาติ ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว จึงทำให้เกิดน้ำท่วมและมวลน้ำนี้ได้ไหลไปลงหนองหาร ผ่านมา 3 วัน มีการสำรวจสภาพของอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นพบหลือเพียงดินโคลน ตอไม้ใต้อ่างเก็บน้ำที่เคยมีน้ำความจุเก็บกักสูงสุด 2.66 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่วันที่ 28 กรกฎาคม ฝนตกหนักมากจนทำให้มีน้ำล้นเขื่อนถึง3 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรเสียหายประเมินค่าไม่ได้
 จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณโดยรอบอ่างเก็บน้ำ ทราบว่า ระดับน้ำ ที่ท่วมไม่ปกติ เพราะว่าน้ำมามาแรงมาก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เก็บข้าวของกันไม่ทัน จะย้ายรถก็ยังทำไม่ทัน ลักษณะของน้ำเหมือนน้ำป่าไม่ใช่แค่น้ำท่วม ที่มาจากน้ำฝนอย่างแน่นอน จนกระทั่งกรมชลประทานออกมาชี้แจงว่า อ่างเก็บน้ำ ไม่ได้แตก แค่คันอ่างถูกกัดเซาะ และจุดที่กัดเซาะ แค่กว้าง 20 เมตร ลึก 4 เมตร นั่นคือการ กัดเซาะ ยืนยัน ไม่แตก อย่างไรก็ตาม นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน บอกกับทีมข่าวว่า อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ถูกกระแสน้ำเอ่อล้นและกัดเซาะจนแนวคันกันน้ำได้รับความเสียหาย 2 จุด จุดแรกกว้าง 20 เมตร ลึก 4 เมตร จุดที่สองกว้าง 50 เมตร ลึก 4 เมตร ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำที่เหลือในอ่างเก็บน้ำ เพียง 1 แสนลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุ ทั้งหมดเกิดจากปริมาณน้ำจากเทือกเขาภูพานไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำบ่อ ซึ่งอยู่ตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นโดยตรง จนน้ำล้นทางระบายน้ำ กระแสน้ำมีความรุนแรง ทำให้ฝายที่ดักน้ำระหว่างทาง พังทรุดจากปริมาณน้ำที่มาก ส่งผลให้น้ำพุ่งตรงเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักได้ 2 ล้าน 6 แสนลูกบาศก์เมตร เป็นจำนวนมาก และแตกในที่สุด โดยปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามีมากถึง 3 ล้าน 7 แสน 5 หมื่น ลูกบาศก์เมตร เกินกำลังที่จะรับได้ อีกทั้งอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีอายุมากกว่า 60 ปี สร้างตั้งแต่ปี 2496 น้ำที่เข้ามามากกว่าทำให้ดึงน้ำในเขื่อนออกไปด้วย แต่ยืนยัน น้ำในเขื่อนไม่ได้ไหลเข้าพื้นที่เทศบาลเมืองสกลนคร มีผล กระทบทางอ้อมเพียงร้อยละ 2 โดยไหลเข้าน้ำอูน ร้อยละ 40 และลงหนองหานร้อยละ60 |
รองอธิบดีกรมชล บอกอีกว่า เส้นทางการไหลของน้ำในเขตเมืองสกลนคร เกือบทั้งหมดจะไหลไปรวมลงสู่หนองหาร และระบายออกทางลำน้ำก่ำเพียงลำน้ำเดียว ก่อนจะไหลไปลงแม่น้ำโขง แต่เนื่องจากลำน้ำก่ำมีปริมาณน้ำเต็มความจุของลำน้ำแล้ว ทำให้การระบายน้ำจากหนองหาร ไม่สามารถระบายได้อย่างสะดวก จึงทำให้เกิดการท่วมขัง ในเบื้องต้น กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 2 จุด ที่บ่อบำบัดน้ำเสีย จ.สกลนคร และ หนองสนม เพื่อเร่งระบายน้ำ หากไม่มีปริมาณน้ำมาเพิ่มเติมคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ในเร็ววันนี้ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ10โมงครึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น เพื่อดูสภาพพื้นที่และการซ่อมแซม รวมถึงการแก้ไขปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ที่แตกพร้อมรับฟังคำอธิบายจากอธิบดีกรมชลประทาน
