1 พ.ค.นี้ เป็นวันแรงงานแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ย้ำนายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ให้ลูกจ้างหยุดปฏิบัติงาน พร้อมจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงาน ฝ่าฝืน มีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ได้กำหนดให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 13 วัน โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติด้วย และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างในวันหยุด ตามประเพณีดังกล่าวเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานปกติ
ทั้งนี้กสร.จึงขอให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายโดยจัดให้ลูกจ้างได้หยุดงานในวันแรงงานแห่งชาติและจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง สำหรับนายจ้างที่ไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดงานได้ เนื่องจากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ งานในกิจการโรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม สโมสร สมาคม สถานพยาบาล สถานบริการท่องเที่ยว งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร งานขนส่ง และงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายกับงาน ให้นายจ้างตกลงกับลูกจ้างว่าจะให้หยุดชดเชยในวันอื่นแทนหรือจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้กับลูกจ้าง
กรณีที่ตกลงกันว่าจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดนั้น นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานปกติ สำหรับลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด และจ่ายเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานปกติ