ชาวบ้าน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียงแห่จุดธูปเทียนกราบไหว้ ถวายอาหารคาวหวานและชุดไทย เพื่อขอโชคลาภเจ้าแม่ตะเคียนหิน–ตะเคียนทองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี และไม้พายกลายเป็นหินโบราณที่พบในลำน้ำมูล เชื่อศักดิ์สิทธิ์หลังมีชาวบ้านถูกหวยติดต่อกันหลายงวด
28 พ.ค.60 ชาวบ้าน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียง ต่างพากันแห่มาจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมนำอาหารคาวหวานและชุดไทยมาถวาย เพื่อขอโชคลาภจากต้นตะเคียนหิน – ตะเคียนทองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี และไม้พายกลายเป็นหินโบราณ ที่พบในลำน้ำมูลขณะทางบริษัทเอกชนทำการดูดทรายบริเวณบ้านเบา ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง ลึกประมาณ 20 เมตร และได้ทำพิธีอัญเชิญเคลื่อนย้ายมาไว้ที่สถานปฏิบัติธรรมดอนพลัยพุทธมงคล บ้านข่อย ต.พุทไธสง โดยต้นเคียนทองดังกล่าวมีความยาวประมาณ 19 เมตร โคนต้นขนาด 3 คนโอบ
ส่วนต้นตะเคียนทองอีก 2 ต้นมีความยาว 6 เมตร ทั้งนี้ยังมีไม้พายกลายเป็นหินโบราณ ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ซึ่งพบอยู่ข้างต้นตะเคียนทั้ง 3 ต้นด้วย ซึ่งหลังจากมีการอัญเชิญตะเคียนทอง ตะเคียนหิน และไม้พายโบราณดังกล่าว มาไว้ที่สำนักสงฆ์ก็มีชาวบ้านมากราบไหว้ขอหวยและโชคลาภจำนวนมาก และมีคนเคยถูกหวยและลอตเตอรี่ติดต่อกันหลายงวด หลังข่าวแพร่สะพัดก็มีคนแห่มากราบไหว้ทั้งนำของคาวหวาน ชุดไทยมาถวายเพื่อขอโชคลาภอย่างไม่ขาดสาย โดยชาวบ้านที่มาขอโชคลาภเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ในต้นตะเคียนหิน คือ เจ้าแม่ศรีสุวรรณ ส่วนตะเคียนทองอีก 2 ต้น คือ เจ้าแม่สร้อยสุวรรณ และเจ้าแม่จันทร์สุดา
นางกรกต อายุ 56 ปี บอกว่า หลังทราบข่าวว่ามีชาวบ้านมาขอโชคลาภจากเจ้าแม่ตะเคียนหิน –ตะเคียนทองที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้วโชคลาภตามที่ขอ จึงลองมากราบไหว้และซื้อชุดไทยมาถวายเพื่อขอโชคลาภบ้าง เพราะช่วงนั้นครอบครัวประสบปัญหาเรื่องเงิน เมื่อมาขอก็ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 5 จำนวน 4 ใบ ครั้งนี้จึงได้มากราบไหว้ขอให้ถูกรางวัลใหญ่ เพื่อจะได้นำเงินมาร่วมบูรณะสำนักสงฆ์ สร้างที่อยู่ให้กับเจ้าแม่ตะเคียน และรำถวายตามความเชื่อด้วย
ขณะที่ นางสุพิน อายุ 55 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านข่อย ต.พุทไธสง บอกว่า หลังจากมาจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอโชคลาภจากเจ้าแม่ตะเคียนหิน-ตะเคียนทอง ก็โชคดีถูกหวยติดต่อกันแล้วถึง 4 งวด จึงได้นำอาหารคาวหวานมาถวายตามความเชื่อ เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และหากงวดนี้ถูกอีกก็จะมาร่วมบูรณะสำนักสงฆ์และรำถวายเจ้าแม่ตะเคียนด้วย
อนึ่ง ข่าวดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและวิเคราะห์ข่าวอย่างมีสติ
